นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนต้าคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงในไตรมาส 4 ปีนี้ ไปจนถึงครึ่งแรกของปีหน้า และหลังจากนั้นคาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวขึ้นซึ่งจะช่วยพยุงให้เศรษฐกิจขยายตัวขึ้นได้อีกครั้ง
"ผมคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงในไตรมาส 4 และคาดว่า จะฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งก็คือใกล้ช่วงปลายปีหน้าซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปรับฐานขึ้น" นายล็อคฮาร์ทกล่าวในที่ประชุมนักธุรกิจในรัฐอลาบาม่า
อย่างไรตาม นายล็อคฮาร์ทคาดว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์จะส่งผลกระทบถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค และคาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะชะลอตัวลงอีกในระยะใกล้นี้ ทั้งนี้ คณะกรรมการเฟดกำลังจับตาดูความเสี่ยงด้านเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในปีนี้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากราคาพลังงานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น
นอกจากนี้ นายล็อคฮาร์ทกล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจในปัจจุบันสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจที่ไม่ชัดเจน และเมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานแล้วพบว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโตได้ดีแม้ต้องเผชิญความผันผวนในตลาดการเงินก็ตาม นอกจากนี้ แทบจะไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าภาวะผันผวนดังกล่าวจะส่งผลกระทบถึงภาคเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
ในช่วงท้ายของการประชุม นายล็อคฮาร์ทกล่าวว่า การที่เฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นอีก 0.25% ในการประชุมเมื่อปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมานั้น เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหลังจากเฟดได้ประเมินความเสี่ยงที่มีต่อเศรษฐกิจ อีกทั้งกล่าวว่า หนึ่งในปัญหาที่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงก็คือตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทเอกชนที่มีแนวโน้มลดต่ำลง สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--