นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.10 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 32.99 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินเคลื่อนไหวในกรอบ 32.88 - 33.15 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้บาทผันผวนมาก ช่วงเช้าแข็งค่าสวนทางกับภูมิภาค และมี Fund Flow ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดพันธบัตรถึง 1.4 หมื่น ล้านบาท แต่ช่วงบ่ายมีแรงซื้อดอลลาร์ ทำให้บาทอ่อนค่าขึ้นมา" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.00 - 33.20 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.66 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 114.47 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1389 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1414 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,660.27 จุด ลดลง 16.60 จุด (-0.99%) มูลค่าการซื้อขาย 113,953 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3,216.77 ลบ.(SET+MAI)
- กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาเพิ่มระยะเวลาดำเนินโครงการคนละครึ่ง
เฟส 4 เป็น 3 เดือน จากเดิมที่กำหนดไว้ 2 เดือน รวมถึงหารือเงื่อนไขในการดำเนินโครงการทั้งหมด ส่วนการเริ่มโครงการเข้ามา
เร็วขึ้นเป็น 21 ก.พ. โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่และยืนยันตัวตนในวันที่ 14 ก.พ.นั้น คาดว่าต้องให้สภาพัฒน์เห็นชอบเรื่องการใช้
เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงินฯก่อน จึงจะนำเสนอ ครม.ได้
- รมว.สาธารณสุข เผย ในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันที่ 20 ม.ค.นี้ กระทรวงสาธารณสุข จะเสนอเรื่องการปรับพื้นที่สี
เพื่อให้เกิดความผ่อนคลายในเรื่องของการใช้ชีวิตมากขึ้น รวมทั้งกำลังพิจารณาเพื่อเพิ่มจังหวัดแซนด์บ็อก จากเดิมที่เพิ่มไปแล้ว 3 จังหวัด
โดยจะเพิ่มให้ครบทุกภูมิภาค ส่วนการเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ จะยังไม่มีการพิจารณาในรอบนี้
- วิจัยกรุงศรี คาดแนวโน้มการส่งออกของไทยในปีนี้ จะยังเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนที่ 5% บวกกับการทยอยฟื้นตัวของ
กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยหนุนการขยายตัวของการผลิต และการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมในปีนี้
- หอการค้าไทย ได้รับฟังความเห็นจากผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ พบว่า ผู้ประกอบการมีข้อเสนอให้
รัฐบาลเร่งพิจารณานำมาตรการ Test&Go กลับมาดำเนินการอีกครั้ง โดยสามารถปรับปรุงกระบวนการให้เหมาะสมกับสถานการณ์แพร่
ระบาดเวลานี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว รวมถึงเสนอให้มีการตรวจ RT-PCR ก่อนการเดินทางเพิ่มอีก เป็น 5 วัน และ 3
วัน ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ (Ultraloose Monetary Policy) ในการ
ประชุมวันนี้ ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่
ประมาณ 0%
- ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผย BOJ ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในปัจจุบัน หรือหารือ
เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเชื่อว่าการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราวเท่านั้น
- ตัวเลขการจ้างงานใหม่ของอังกฤษในเดือนธ.ค. 2564 ปรับตัวขึ้น 184,000 ราย ส่งผลให้ตัวเลขจ้างงานโดยรวมอยู่ใน
ระดับสูงกว่าเดือนก.พ. 2563 ประมาณ 1.4% โดยเดือนก.พ. 2563 เป็นช่วงก่อนที่โรคโควิด-19 จะแพร่ระบาดในอังกฤษ
- ประธานกลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซน (Eurogroup) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูง จะคงอยู่นานกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก
แต่เชื่อว่าจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนพุ่งทำสถิติใหม่ที่ 5% ในเดือนธ.ค. 2564 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่
เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2540 แซงหน้าสถิติเดิมที่ 4.9% ในเดือนพ.ย.