นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา ร้านอาหารเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดฯ ทั้งการปิดร้าน การเปิด-ปิดร้านตามช่วงเวลาที่กำหนด และการจำกัดผู้เข้ารับการบริการ ผู้ประกอบการต้องเจออุปสรรคที่ท้าทาย โดยมีการปรับแผนธุรกิจเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การบริหารจัดการและการตลาด เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
อย่างไรก็ดี แม้รูปแบบธุรกิจร้านอาหารจะมีการปรับตัวขนานใหญ่ แต่การสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค และความมีมาตรฐานของร้านอาหารยังคงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยังคงเดินหน้าสร้างและรักษามาตรฐานร้านอาหารไทยภายใต้ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT อย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการใช้วัตถุดิบของไทย รสชาติ ความสะอาด สุขอนามัย บริการ และบรรยากาศภายในร้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่เข้ามารับบริการจะได้สัมผัสรสชาติอาหารแบบไทยแท้ รับรู้ถึงความมีมาตรฐาน ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ เป็นการกระตุ้นให้เข้ามาใช้บริการจนเกิดความประทับใจ และกลับมาใช้บริการซ้ำอย่างต่อเนื่อง
รมช.พาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ สิ่งที่ทำควบคู่ไปกับการสร้างมาตรฐาน คือ การพัฒนาองค์ความรู้ด้านต่างๆ ที่มีความจำเป็นแก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร ได้แก่ การยกระดับคุณภาพงานบริการ การบริหารจัดการธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม การขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้สอดรับบริบทพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ อีกสิ่งที่มีความสำคัญ คือ การจัดทำเคมเปญส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร Thai SELECT ผ่านสื่อประเภทต่างๆ เช่น ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร เช่น บมจ. บัตรกรุงไทย (KTC) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การทำโปรโมชั่นส่วนลดสนับสนุนร้านอาหารกับแพลตฟอร์มออนไลน์ (Food delivery) และสร้างการรับรู้ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ผ่านผู้ทรงอิทธิพลบนสื่อสังคมออนไลน์ (Influencer) ด้านอาหารหรือด้านท่องเที่ยว โดยทำการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ที่ได้รับความนิยม เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างแพร่หลาย และครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด
ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กระทรวงพาณิชย์ยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยนำผลิตภัณฑ์สมุนไพรแต่ละพื้นถิ่นมาเชื่อมโยงกับร้านอาหาร Thai SELECT นำมาเป็นส่วนประกอบในการประกอบอาหาร ภายใต้แนวคิด ?อาหารต้านโรค? ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีการใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น และสอดคล้องกับการใช้ชีวิตรูปแบบ Next Normal ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นคงทางอาชีพ และความยั่งยืนทางรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูก-ผู้ผลิตสมุนไพรแต่ละท้องถิ่นผ่าน ?เมนูอาหาร? ของร้านอาหาร Thai SELECT
ในปี 65 กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเปิดรับสมัครร้านอาหารไทยทั่วประเทศเข้ารับการประเมินเพื่อรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ประมาณเดือนมี.ค. 65 โดยมีคุณสมบัติเบื้องต้น อาทิ เปิดให้บริการมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน รองรับลูกค้าพร้อมกันได้ไม่ต่ำกว่า 30 ที่นั่ง และมีรายการอาหารไทยไม่น้อยกว่า 80% เป็นต้น
"ร้านอาหารไทยในประเทศที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT แล้ว จะมีอายุการใช้ตราสัญลักษณ์เป็นเวลา 3 ปี และสามารถสมัครต่ออายุตราสัญลักษณ์ได้อีกคราวละ 3 ปี โดยหากร้านอาหารมีมากกว่า 1 สาขา แต่ละสาขาต้องแยกยื่นขอเข้ารับการประเมินเพื่อรับตราสัญลักษณ์ฯ จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการร้านอาหารไทยสมัครเข้ารับตราสัญลักษณ์ฯ โดยวันเวลาที่เปิดรับสมัครจะแจ้งให้ทราบโดยละเอียดอีกครั้ง" รมช.พาณิชย์ กล่าว
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 18 ม.ค. 65) มีร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จำนวน 1,000 ราย ประกอบด้วย Thai SELECT SIGNATURE จำนวน 11 ราย Thai SELECT CLASSIC จำนวน 916 ราย และ Thai SELECT UNIQUE จำนวน 73 ราย