นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) มีมติกำหนดให้ไก่และเนื้อไก่เป็นสินค้าควบคุม และให้ความเห็นชอบกำหนดมาตรการให้ผู้เลี้ยงไก่ที่มีปริมาณการเลี้ยงตั้งแต่ 100,000 ตัวขึ้นไป และโรงชำแหละไก่ที่มีกำลังการผลิตมากกว่า 4,000 ตัวต่อวัน ต้องแจ้งปริมาณสต็อก และต้นทุนราคาจำหน่ายทุกเดือน
นอกจากนี้ ยังมีมติให้โรงงานผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 55 โรง แจ้งต้นทุนราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต และสต็อก รวมทั้งกำหนดมาตรการให้การปรับราคาต้องได้รับอนุญาตจากกรมการค้าภายในก่อน
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า การกำหนดให้ไก่เป็นสินค้าควบคุมนั้น จะต้องผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน ซึ่งคาดว่าจะนำเข้าที่ประชุม ครม.ได้ในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในเรื่องของการกำกับราคาไก่ถือว่าได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเกษตรกรและผู้ประกอบการ โดยได้ประชุมร่วมกันมา 2 ครั้ง และกำหนดราคาหน้าฟาร์มและราคาจำหน่ายไก่ในราคาที่เป็นธรรมกับผู้บริโภค ซึ่งในภาพรวมถือว่าสามารถตรึงราคาไก่ไว้ได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน
อีกทั้งได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน ประชุมร่วมกับเกษตรกร และผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิดต่อไป เพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมอาหารทางเลือกกับผู้บริโภค หลังจากที่เนื้อหมูปรับขึ้นราคา
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงกรณีมีข่าวว่าสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเตรียมจะปรับขึ้นราคาว่า ได้สั่งการผ่านอธิบดีกรมการค้าภายในไปแล้วว่าห้ามเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นราคา เพราะยังไม่เห็นเหตุผลที่สมควร ซึ่งขณะนี้มีผู้พยายามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าตามอำเภอใจ ถือเป็นการซ้ำเติมผู้บริโภคมาก
"กระทรวงพาณิชย์จึงขอความร่วมมือ ถ้าพบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า หรือกักตุนสินค้าให้แจ้งสายด่วน 1569 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และพาณิชย์จังหวัด จะใช้เป็นข้อมูลในการลงไปตรวจสอบและดำเนินคดีต่อไป ถ้าพบการกระทำผิดกฎหมาย เช่น กรณีของการขึ้นราคาไข่ไก่ เป็นต้น" นายจุรินทร์กล่าว
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่านายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เชิญผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ เช่น ซัมซุง แอลจี มิตซูบิชิ ฟิลลิปส์ และโตชิบา เป็นต้น พร้อมทั้งสมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มาประชุมหารือกัน และได้ข้อยุติแล้วว่าจะไม่มีการปรับขึ้นราคาเครื่องใช้ไฟฟ้า