นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตร ได้เตรียมการเพื่อรองรับการส่งออกผลไม้สำหรับฤดูกาลภาคตะวันออกไปจีน ตามข้อสั่งการของ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้กรมฯ ร่วมหารือกับผู้ประกอบการ เพื่อผลักดันให้การส่งออกผลไม้ไปจีนผ่านประเทศที่สามได้สะดวก
ทั้งนี้ ต้องอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมเชื้อไวรัสโควิด-19 ของจีนที่เข้มงวด ZERO COVID 100% ทั้งคน สินค้า (รวมผลไม้สด) บรรจุภัณฑ์ และตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งหากจีนตรวจพบเชื้อโควิด-19 จะต้องปิดด่านและระงับการนำเข้าสินค้า ตามมาตรการของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นที่กำหนด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกผลไม้ไทยอาจติดอยู่ที่หน้าด่านได้
สำหรับในปี 65 นี้ คาดการณ์ผลผลิตทุเรียนจะมีไม่น้อยกว่า 700,000 ตัน และมังคุดไม่น้อยกว่า 200,000 ตัน ซึ่งมาตรการที่กรมฯ ได้เตรียมการไว้ ได้แก่ มาตรการควบคุมและป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ในผลไม้ส่งออกตั้งแต่สวนต้นทางจนถึงปลายทาง คือ ผู้ปฏิบัติงานในโรงคัดบรรจุ เพื่อควบคุม และป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 บนผิวผลไม้ที่ส่งออก บรรจุภัณฑ์ และในตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งผลไม้
พร้อมกันนี้ ได้เร่งการตรวจประเมินสวนผลไม้รายใหม่ เพื่อรองรับมาตรฐาน GAP และจัดส่งข้อมูลการขึ้นทะเบียนให้กับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) เป็นรายไตรมาส เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการเพิ่มจำนวนแปลง GAP ในระบบฐานข้อมูลของจีน
นอกจากมาตรการดังกล่าวแล้ว กรมฯ ได้หารือร่วมกับสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่ง (สปษ.ปักกิ่ง) และผู้ประกอบการส่งออกผลไม้ไทยไปจีน เพื่อหาแนวทางลดปัญหาการแออัดการส่งออกสินค้าเกษตร ณ ด่านโหย่วอี้กวน โดยขอเพิ่มช่องทางส่งออกจากทางบกต่อทางเรือผ่านด่านไฮฟอง (เวียดนาม) เพื่อนำสินค้าเข้าที่ท่าเรือชินโจว (จีน)
"กรมวิชาการเกษตรอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดเสนอให้จีนพิจารณา เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามพิธีสารระหว่างไทยกับจีน จึงได้เสนอให้ สปษ.ปักกิ่ง ประสานกับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าวเพื่อให้จีนมีความมั่นใจว่าฝ่ายไทยได้เข้มงวดตรวจสอบทั้งศัตรูพืชและเชื้อโควิด-19 ในผลไม้ไทยที่ส่งออกไปจีนอย่างเคร่งครัด" นายภัสชญภณ กล่าว