ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ที่ตลาดออสเตรเลียเช้าวันนี้(16 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการทำธุรกรรม carry trade ในสกุลเงินเยน และจากรายงานตัวเลขค้าปลีกในอังกฤษที่อ่อนแอเมื่อคืนที่ผ่านมา
ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเนื่องจากนักลงทุนชะลอการทำ carry trade ในสกุลเงินเยนท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นอันเป็นผลมาจากกระแสความกังวลต่อวิกฤติสินเชื่อสหรัฐ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ช่วยให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองเงินสุลยูโรและเงินเยนและหันไปลงทุนในเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐแทน
นอกจากนี้ ค่าเงินปอนด์สเตอริงได้รับแรงกดดันเช่นกัน หลังจากที่ยอดค้าปลีกในสหราชอาณาจักรเดือนต.ค.ปรับตัวลดลง 0.1% ซึ่งได้จุดกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 06.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวที่ 110.445 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับ 110.35 เยนต่อดอลลาร์ ที่ตลาดนิวยอร์กเช้านี้ ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเล็กน้อยแตะระดับ 1.4615 ดอลลาร์ต่อยูโรจาก 1.4620 ดอลลาร์ต่อยูโรเมื่อคืนที่ผ่านมา
ขณะที่เงินปอนด์สเตอริงซื้อขายกันที่ 2.0436 ดอลลาร์ต่อปอนด์ เมื่อเทียบกับระดับ 2.0440 ดอลลาร์ต่อปอนด์เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการอ่อนค่าลงต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ(BoE) จะผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มทางการเงินด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--