น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดให้กิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้กิจการให้บริการหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือตำราเรียนที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต มีสิทธิแจ้งต่ออธิบดีกรมสรรพากรเพื่อขอจดทะเบียนและเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ เพื่อให้เป็นไปในเกณฑ์เดียวกับกับกิจการหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือตำราเรียนที่อยู่ในรูปของกระดาษ
ทั้งนี้ ปัจจุบันกิจการหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือตำราเรียนทั้งในรูปแบบกระดาษ และบริการในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เป็นกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แต่มีข้อแตกต่าง คือ ผู้ให้บริการในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ฯ ไม่มีสิทธิแจ้งต่ออธิบดีกรมสรรพากรเพื่อขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ เนื่องจากไม่มีกฎหมายกำหนดให้ทำได้ ดังนั้น การให้สิทธิแก่ผู้ให้บริการในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ฯ จึงเป็นการสร้างความเท่าเทียมในการเสียภาษีระหว่างผู้ประกอบการซึ่งประกอบธุรกิจเดียวกันแต่ช่องทางแตกต่างกัน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การเป็นธุรกิจที่สามารถจดทะเบียนเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้นี้ จะทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น ทั้งโอกาสในการนำค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการประกอบธุรกิจมาขอคืนภาษีซื้อได้ ช่วยลดต้นทุนในการประกอบการลง ธุรกิจมีความน่าเชื่อมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจเนื่องจากสามารถออกใบกำกับภาษีให้แก่ผู้ซื้อได้
อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังได้พิจารณาการสูญเสียรายได้และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับแล้ว โดยระบุว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐ เนื่องจากเป็นการกำหนดให้ผู้ให้บริการซึ่งได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่แล้ว มีสิทธิขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ ไม่ใช่อัตราการลดภาษีหรือยกเว้นภาษี จึงไม่ก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ของรัฐแต่อย่างใด