ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบยูโร หลังยอดค้าปลีก,PPI สหรัฐแกร่ง

ข่าวต่างประเทศ Friday December 14, 2007 07:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกและดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.4627 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.4708 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ที่ 1.4576 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นแตะระดับ 112.21 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 112.05 เยนต่อดอลลาร์ ส่วนค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 2.0393 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.0477 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) พุ่งขึ้น 3.2% ในเดือนพ.ย.ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 34 ปี เนื่องจากราคาเบนซินที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.4 % ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.เป็นต้นมา
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์ที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.2% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 2 เท่า และขยายตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 6 เดือน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจยังขยายตัวได้ดีกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น
นายแมทธิว สตรอส ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศจากบริษัทอาร์บีซี แคปิตอล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า "แม้ข้อมูลยอดค้าปลีกและดัชนี PPI ไม่ได้ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐเปลี่ยนแปลงไป แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ"
"เรามองว่าดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเพราะปัจจัยทางเทคนิค ซึ่งเป็นสถานการณ์ปกติในช่วงปลายปี เรามีข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเมื่อสกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นทะลุแนวต้านทางเทคนิคที่ระดับ 1.4640 ดอลลาร์ต่อยูโรแล้ว ก็มีแรงขายส่งเข้ากดดันยูโรในเวลาต่อมา" นายสตรอสกล่าว
"ที่ผ่านมานั้นตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กมีสภาพคล่องที่ต่ำมาก ดังนั้นการซื้อขายทางเทคนิคจึงเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อความเคลื่อนไหวในตลาดแล้วในเวลานี้" เขากล่าว
นอกจากนี้ นายสตรอสกล่าวว่า นักลงทุนจับตาดูดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนพ.ย.ซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ หากดัชนี CPI ปรับตัวสูงขึ้นเหมือนกับดัชนี PPI ก็จะเป็นปัจจัยหนุนค่าเงินดอลลาร์ และอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลังเลที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ