สหรัฐเผยยอดขาดดุลการค้าเดือนต.ค.พุ่ง 1.2% สูงสุดในรอบ 3 เดือน

          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2% แตะที่ 5.78 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนต.ค. ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนก.ค. 
          ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ยอดส่งออกสินค้าและบริการของสหรัฐในเดือนต.ค. ปรับตัวสูงขึ้น 0.9% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.417 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับตัวเลขการส่งออกที่เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8
          เช่นเดียวกับยอดนำเข้าสินค้าและบริการของสหรัฐก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 1% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.995 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น จนส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการนำเข้าน้ำมันของสหรัฐเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
          สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สหรัฐนำเข้าน้ำมันดิบในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 8.3% คิดเป็นมูลค่า 2.96 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยราคานำเข้าน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยในเดือนต.ค.พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 72.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล            
          จนถึงขณะนี้ ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.04 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งปรับตัวลดลง 7.1% จากปีที่ผ่านมาที่ระดับ 7.585 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
          ทั้งนี้ สหรัฐมีตัวเลขการนำเข้า-ส่งออกสินค้าที่ไม่สมดุลเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าที่ปรับตัวลดลงในปีนี้เป็นผลจากผู้ส่งออกสหรัฐได้ประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในหลายประเทศ ประกอบกับการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินของประเทศอื่นๆ