นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีในรูปแบบ Video Conference เนื่องจากอยู่ระหว่างการกักตัวตามมาตรการสาธารณสุขหลังจากเดินทางกลับมาจากการเยือนประเทศซาอุดีอาระเบีย แต่ได้ติดตามการแก้ไขปัญหาทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความสำเร็จของการเยือนซาอุดีอาระเบียว่า ก่อให้เกิดประโยชน์หลายด้าน อาทิ การยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มปฏิบัติหน้าที่ทันที ความร่วมมือและพัฒนาดิจิทัล แรงงาน พลังงาน การท่องเที่ยว ที่สำคัญมีการเจรจาเพิ่มการสั่งซื้อไก่ฮาลาลจากไทยไปซาอุฯ โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมเรื่องจำนวนไก่ และอื่นๆด้วย พร้อมกำชับว่า ทุกอย่างต้องเห็นผลภายใน 2 เดือน
นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาสินค้าอุปโภค-บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งแม้ว่าขณะนี้ราคาสินค้าเริ่มลดลงบ้างแล้ว แต่ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เดินหน้าติดตามเรื่องการกักตุนสินค้าและใช้กฎหมายดำเนินการอย่างเคร่งครัด
สำหรับสถานการณ์ โควิด-19 นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันบริหารสถานการณ์โควิด-19 สามารถจัดการควบคุมการแพร่ระบาดสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภูมิภาคปรับตัวดีขึ้น ส่งผลต่อภาพรวมที่มีทิศทางดีขึ้นในอนาคต ส่งผลให้การค้า ธุรกิจใหม่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยยังได้ขอให้ทุกฝ่ายติดตามจับตาสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เพื่อเป็นแนวทางพิจารณาต่อไป
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยต่อว่า นายกรัฐมนตรี มีความยินดีที่ประเทศไทยติดอันดับ5 ซึ่งนิตยสาร Capital ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นนิตยสารรายเดือนที่เน้นการนำเสนอข่าวสารด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุน ได้เผยแพร่บทความการจัดอันดับ 10 ประเทศ/เมืองที่น่าใช้ชีวิตยามเกษียณมากที่สุด จัดทำโดยเว็บไซต์รีเทท ซอง ฟองเทีย (Retraite sans Frontieres) โดยประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ 5 ต่อจาก กรีซ โปรตุเกส มอรีเชียส และสเปน สะท้อนความโดดเด่นและภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว และเป็นเมืองที่น่าอาศัยอยู่
นอกจากนี้ booking.com ยังจัดอันดับให้ จังหวัดกระบี่ เป็นเมืองที่การต้อนรับผู้เดินทางที่ดีที่สุด ถือเป็นสัญญาณที่ดี ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกของการเปิดลงทะเบียน Thailand Pass ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม เน้นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การใช้ยานพาหนะ ต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการเห็นการพัฒนา ต้องทำให้ได้ในช่วงเวลาอันใกล้อีกด้วย