อินโดนีเซียคาดยอดส่งออกปีนี้พุ่งต่ำกว่าเป้าแตะ 1.10-1.14 แสนล้านดอลล์

          มารี ปังเกสตู รัฐมนตรีกระทรวงการค้าของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ยอดส่งออกของอินโดนีเซียอาจพุ่งแตะระดับ 1.10-1.14 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ จากปัจจัยหนุนด้านสินค้าโภคภัณฑ์ที่ไม่นับรวมน้ำมันและก๊าซ แต่ตัวเลขดังกล่าวปรับตัวลดลงจากที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ที่ 1.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 
          โดยเมื่อปีที่ผ่านมา อินโดนีเซียมียอดส่งออกพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 1.0069 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นจากระดับปีก่อนหน้านี้ 17.6%
          ปังเกสตูกล่าวว่า ยอดส่งออกของอินโดนีเซียในปีหน้าจะขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันดิบว่า จะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์จากประเทศคู่ค้าอย่างไรบ้าง
          ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ตั้งเป้ายอกส่งออกว่า จะเพิ่มขึ้น 14-15% ในปีหน้า ซึ่งคาดว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่แข็งแกร่งจะช่วยสกัดอุปสงค์ที่ปรับตัวลดลงจากประเทศคู่ค้ารายใหญ่ได้ โดยญี่ปุ่นและสหรัฐเป็นจุดหมายปลายทางการส่งออกรายใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ยอดส่งออกของอินโดนีเซียปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.4% แตะระดับ 9.326 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐจากระดับในปีก่อนหน้านี้ โดยมียอดส่งออกสินค้าซึ่งไม่นับรวมน้ำมันและก๊าซเพิ่มขึ้น 17.3% แตะที่ระดับ 7.591 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
          โดยน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เป็นสินค้านอกหมวดน้ำมันและก๊าซที่ส่งออกมากที่สุดในปีนี้ ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากราคาที่สูงขึ้น โดยมูลค่าการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบแตะ 7.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับระดับ 4.90 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีก่อนหน้านี้
          ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สองของโลกรองจากมาเลเซีย แต่เป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก