นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยเตรียมนัดชุมนุมหน้ากระทรวงพลังงานในวันพรุ่งนี้ (8 ก.พ.) เรียกร้องให้ลดราคาน้ำมันดีเซลเหลือ 25 บาทต่อลิตรว่า กระทรวงพลังงานขอความเห็นใจถึงสาเหตุที่ต้องตรึงราคาดีเซลไว้เพียงแค่ 30 บาทต่อลิตร เพราะหากปรับลดราคาดีเซลลงเหลือ 25 บาทต่อลิตร จะเป็นภาระหนักสำหรับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ต้องใช้เงินตรึงราคาถึง 9 บาทต่อลิตร หรือคิดเป็นวงเงินรวม 17,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งกองทุนฯไม่มีเงินมากพอและไม่สามารถหาแหล่งเงินมาได้ โดยปัจจุบันกองทุนฯติดลบไปแล้ว 14,080 ล้านบาท
ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลที่แท้จริงอยู่ที่ 34 บาทต่อลิตร แต่กระทรวงพลังงานใช้เงินกองทุนฯอุดหนุน 3.79 บาทต่อลิตร เพื่อให้ราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร และทำให้ปัจจุบันราคาจำหน่ายปลีกอยู่ที่ 29.94 บาทต่อลิตร (ใช้เงินอุดหนุนรวมประมาณ 5,000 ล้านบาทต่อเดือน) และกองทุนฯยังต้องช่วยดูแลประชาชนกลุ่มผู้ใช้ก๊าซหุงต้ม(LPG)อีก
ขณะนี้กองทุนน้ำมันฯ อยู่ระหว่างต้องกู้เงิน 30,000 ล้านบาท มาพยุงราคาดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตรและดูแลราคา LPG ท่ามกลางราคาน้ำมันโลกที่ขยับสูงขึ้นมาก โดยปัจจุบันราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 90 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นทุก 1 เหรียญสหรัฐฯกระทบราคาดีเซลให้ต้องปรับขึ้น 20 สตางค์ต่อลิตร ดังนั้นขอให้กลุ่มรถบรรทุก -แท็กซี่เอ็นจีวี เข้าใจสถานการณ์ราคาน้ำมันแพงเกินคาดการณ์ในขณะนี้ด้วย
อนึ่ง สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย นัดจัดกิจกรรม รวมพล คาร์ม็อบ หน้ากระทรวงพลังงาน หน้าถ.วิภาวดีรังสิต ตั้งแต่เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป เพื่อขับไล่นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน หลังล้มเหลวแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง