ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.93/95 แนวโน้มแกว่งแคบในกรอบ 32.85-33.05 ตลาดจับตาเงินเฟ้อสหรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 8, 2022 09:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.93/95 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.05 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ โดยตลาดรอติดตามผลประชุมคณะกรรมการ นโยบายการเงิน (กนง.) วันพรุ่งนี้ และเชื่อว่ารอบนี้ กนง.ยังคงดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิม ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ตลาดรอดูการรายงาน ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐเดือนม.ค. 65 ในสัปดาห์นี้เช่นกัน

"วันนี้บาทคงอยู่ในกรอบแคบๆ ยังไม่มีปัจจัยใหม่ รอดูประชุม กนง. แต่ก็เชื่อว่าน่าจะคงดอกเบี้ยไว้ เพราะไม่มีการส่งสัญญาณ อะไรออกมา ส่วนต่างประเทศ รอดูเงินเฟ้อสหรัฐวันพฤหัสนี้ เพราะตลาดมองว่าแนวโน้มเงินเฟ้อยังสูง ซึ่งจะมีผลต่อการประชุมเฟดเดือน มี.ค.ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเท่าไร 0.25% หรือ 0.50%" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85 - 33.05 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (7 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 0.36539% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.43523%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 115.25/30 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 115.04 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1400/1450 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1420 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.943 บาท/ดอลลาร์
  • ผู้อำนวยการและผู้บริหารกลุ่มวิจัยและวิเคราะห์ตลาดเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการ
นโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 9 ก.พ.นี้ คาดว่าจะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% อีกครั้ง แม้กระทรวง
พาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรือเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ม.ค.พบว่า เพิ่มขึ้นอัตราสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 3.23% ก็
ตาม แต่สาเหตุหลักเงินเฟ้อเพิ่มจากต้นทุนด้านพลังงานเป็นหลัก ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.52% และเชื่อว่าทิศทางค่าเงิน
บาทจะมีผลบวกจากกระแสข่าวว่ากระทรวงสาธารณสุขมีแนวคิดไม่ล็อกดาวน์และเริ่มให้กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ
  • FETCO เผยดัชนีเชื่อมั่นอีก 3 เดือนข้างหน้าทรุดลง 27.5% หลังกังวลความไม่แน่นอนของนโยบายการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ของเฟด เศรษฐกิจในประเทศ และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ
  • "ททท." กางยอดขอ "ไทยแลนด์พาส" สะสม 5 วันแรก 1-5 ก.พ. กว่า 1.05 แสนคน ได้รับอนุมัติสะสมแล้ว 8.65
หมื่นคน หลังรัฐบาลรีเทิร์นเปิดระบบรับลงทะเบียนนักท่องเที่ยว Test & Go ด้านนายก "สมาคมโรงแรมไทย" คาดยอดนักท่องเที่ยว
เดือน ก.พ.ฟื้นตัวเท่า ธ.ค.64 วอน "คลัง" ผ่อนปรนและยืดเวลาเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกไปอย่างน้อย 2 ปี อุ้มธุรกิจ
โรงแรม
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติโชว์ตัวเลขจำนวนคนว่างงานเมื่อไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาพบ มีจำนวน 630,000 คน ดีขึ้นจากไตร
มาส 3 แต่ยังน่าห่วงผู้เสมือนการว่างงานมีมากถึง 2.6 ล้านคน ลุ้นระทึก ปัญหาการว่างงานระยะยาว หรือที่มีระยะเวลาตั้งแต่ 1 ปีขึ้น
ไป ชี้โควิด-19 ทำโครงสร้างตลาดแรงงานเปลี่ยนไป
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์
(7 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งอาจบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด)
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์ (7 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์
ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
  • นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยดัชนี CPI เดือนม.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาด
การณ์ว่า ดัชนี CPI จะพุ่งขึ้น 7.2% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2525
  • นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. ท่าม
กลางการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่เปิดเผยตัวเลขการ
จ้างงานที่แข็งแกร่งกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 35% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือน มี.ค. จากเดิมที่ให้น้ำหนักเพียง 14%

  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนม.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจ
อิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB), ดุลการค้าเดือนธ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย
สัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
  • นักลงทุนจับตาสถานการณ์ในยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยสหรัฐเปิดเผยว่า กองทัพรัสเซียกำลังตรึงกำลังทหารราว 100,000
นายตามแนวชายแดนยูเครน และการบุกโจมตีอาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ