นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า กนง.ยังให้น้ำหนักกับการฟื้นตัวเศรษฐกิจและรายได้ของประชาชน จึงเห็นว่าขณะนี้ยังไม่ควรขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นการไปฉุดเศรษฐกิจโดยไม่จำเป็น ส่วนการที่เงินเฟ้อในครึ่งปีแรกมีโอกาสสูงเกินกรอบเป้าหมาย 3% ไปบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติและเป็นเรื่องชั่วคราว
"จากที่ผ่านมาเราจะคุ้นเคยกับการเกินกรอบด้านต่ำ แต่ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีการปรับกรอบนโยบายเงินเฟ้อทันที" นายปิติ กล่าว
ทั้งนี้ กนง.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 64 ขยายตัวดีกว่าที่คาดไว้ และมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 65 จากการส่งออกสินค้าที่ปรับสูงขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทางที่เร็วกว่าคาด ซึ่งจะส่งผลให้มีการยกฐานอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ในปี 64 เพิ่มขึ้น แต่ภาพรวมการขยายตัวเศรษฐกิจปี 65 ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาขยายตัวได้เท่ากับช่วงก่อนโควิดในช่วงปลายปี 65 ถึงต้นปี 66 นี้
นายปิติ กล่าวว่า ในระยะต่อไป กนง.ให้น้ำหนักการฟื้นตัวเศรษฐกิจต้องไม่ให้สะดุด ส่วนเงินเฟ้อต้องจับตาไม่ให้ขยายวงกว้าง ไม่ฝังลึกลงไปในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องใช้ยาแรงที่อาจกระทบกับการขยายตัวเศรษฐกิจ และ รายได้ประชาชน และการดูแลการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ ที่ยังมีความเปราะบางจากภาระหนี้ในช่วงโควิด-19