"คอนคอร์ดกรุ๊ป"เล็งผุดโครงการ 4 หมื่นลบ.บนที่ดิน 60 ไร่ย่านปิ่นเกล้า

          มร.ไมเคิล หว่อง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท คอนคอร์ด พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมที่จะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ย่านปิ่นเกล้า บนพื้นที่รวม 60 ไร่ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท โดยโครงการจะประกอบไปด้วย คอนโดมิเนียม และช๊อปปิ้งคอมเพล็กซ์แบบครบวงจร โดยคาดว่าเมื่อพัฒนาเต็มรูปแบบจะมีที่พักอาศัยขนาดใหญ่ในย่านนี้กว่า 12,000 ยูนิต 
          สำหรับในช่วงแรก จะมีการพัฒนาที่ดินกว่า 15 ไร่ โดยพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมในเฟสที่ 1 ประมาณ 2,700 ยูนิต ภายใต้ชื่อโครงการ บางกอก คานส์ (Bangkok Cannes) โดยโครงการทั้งหมดจะประกอบไปด้วยที่พักอาศัยขนาด 29.5-75 ตารางเมตร มีราคาขายตั้งแต่ 880,000 บาทขึ้นไป คิดเป็นมูลค่าโครงการรวม 3,700 ล้านบาท สำหรับจุดเด่นของโครงการคือทำเลที่ตั้งที่ติดกับถนนจรัญสนิทวงศ์ และอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT สายใหม่ ขณะที่ราคาขายถือว่าเป็นราคาที่จูงใจที่สุดในย่านดังกล่าว เนื่องจากโครงการตั้งราคาขายเริ่มต้นเพียง 29,900 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น นอกจากนี้โครงการยังประกอบไปด้วยระบบสาธารณูปโภคแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ ฟิตเนสเซ็นเตอร์ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ฯลฯ 
          มร.หว่อง กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการบริหารด้านการตลาดและการขายนั้นบริษัทฯได้มอบหมายให้ บริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นผู้ดูแล โดยโครงการ “บางกอก คานส์" จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 15-16 ธันวาคมนี้ ปัจจุบันโครงการมียอดจองแล้วประมาณ 500 ยูนิต และจากศักยภาพของโครงการ รวมถึงราคาที่ค่อนข้างจูงใจ คาดว่าโครงการนี้จะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายอย่างรวดเร็ว 
          "คอนคอร์ด พร็อพเพอร์ตี้ส์ กรุ๊ป ได้เล็งเห็นว่าประเทศไทยถือว่าเป็นอีกประเทศที่มีศักยภาพ และการเติบโตสูง จึงสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ชื่อโครงการว่า “บางกอก คานส์" ซึ่งจะใช้คอนเซ็ปต์ใกล้เคียงกับที่ เซี่ยงไฮ้ โดยกลุ่ม คอนคอร์ด ต้องการที่จะพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นศูนย์กลางทางด้านที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะ"มร. หว่อง กล่าว  
          คอนคอร์ด พร็อพเพอร์ตี้ส์ กรุ๊ป ถือเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ติดหนึ่งในสามของฮ่องกง โดยปัจจุบันจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ด้วยมูลค่าสินทรัพย์กว่า 600,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในเอเชียอีกหลายประเทศไม่ว่าจะเป็น ประเทศจีน ฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ฯลฯ