ดอลล์ผันผวนที่ตลาดออสซี่เช้านี้หลังข้อมูลศก.ชี้เฟดอาจยังไม่ลดดบ.อีกรอบ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวผันผวนเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญอื่นๆที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้านี้ (14 ธ.ค.) หลังจากที่ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเยนที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากยอดค้าปลีกและดัชนีราคาผู้ผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐทำให้นักลงทุนเชื่อว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
          กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.2% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 2 เท่า และขยายตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่ราคาค้าปลีกไต่ระดับขึ้น 3.2% เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 3 ศตวรรษ หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น 34.8% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจยังขยายตัวได้ดีกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น
          ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) พุ่งขึ้น 3.2% ในเดือนพ.ย.ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 34 ปี เนื่องจากราคาเบนซินที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.4 % ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.เป็นต้นมา
          จอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากบริษัททอมสัน ไอเอฟอาร์กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% ในสัปดาห์นี้ แทนที่จะลดลง 0.50% ตามที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา06.50 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวที่ 112.285 เยนต่อดอลลาร์ หลังจากพุ่งขึ้น 112.22 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่ค่าเงินยูโรซื้อขายกันที่ 1.4623 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.4628 ดอลลาร์ต่อยูโร
          ค่าเงินปอนด์สเตอริงซื้อขายกันที่ 2.0408 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับปิดเมื่อคืนนี้ที่ 2.0390 ดอลลาร์ต่อปอนด์