ฟิทช์คาดศก.เอเชียชะลอตัวปีหน้า แต่เชื่อศก.ไทยจะฟื้นหลังเลือกตั้ง

          สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรตติ้ง เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ทั่วเอเชียจะชะลอตัวลงในปีหน้า ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ที่พุ่งสูงขึ้นอาจทำให้ประเทศเหล่านี้เสี่ยงที่จะเผชิญอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น
          ฟิทช์คาดว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในภูมิภาค จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 7.7% ในปี 2551 จากระดับ 8.7% ในปี 2550 แต่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.8% จากระดับ 4.3%
          "กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มชะลอตัวลง ซึ่งรวมถึงจีน อินเดีย และเวียดนาม หลังจากที่ประเทศเหล่านี้เป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญเมื่อปีที่แล้ว" เจมส์ แม็คคอร์แมค ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดอันดับความน่าเชื่อถือประเทศเอเชียของ ฟิทช์ กล่าวในรายงาน "คาดการณ์เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่เอเชีย 2551
          อย่างไรก็ดี ฟิทช์กล่าวว่าเศรษฐกิจอินโดนีเซียมีแนวโน้มแข็งแกร่งเมื่อพิจารณาจากอุปสงค์ภายในประเทศ และคาดว่าเศรษฐกิจของไทยจะฟื้นตัวในระดับปานกลางเมื่อที่ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
          นอกจากนี้ ฟิทช์กล่าวว่าการที่ประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชียมีการเปิดกว้างด้านการลงทุนและการค้ามากขึ้นนั้นสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ได้รับผลกระทบมากขึ้นจากภาวะด้านการลงทุนและแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย โดยฟิทช์คาดว่า ตัวเลข GDP ของสหรัฐและประเทศยุโรปจะชะลอตัวลงในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ฟิทช์คาดว่าการค้าระหว่างกันของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชีย (intra-regional trade) จะไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอของประเทศอุตสาหกรรมเหล่านี้
          ทั้งนี้ ฟิทช์มองว่า แนวโน้ม GDP และอัตราการขยายตัวด้านการส่งออกที่ชะลอตัวลง จะไม่ส่งผลกระทบในทันทีต่อการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชีย เพราะส่วนใหญ่ประเทศเหล่านี้มียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด และทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์