นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ซึ่งมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้พิจารณาวางแนวทางบริหารราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลภายหลังจากมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ลดการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2565 มีผลทำให้ภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล จากเดิมจัดเก็บ 5.99 บาท/ลิตร ปรับเป็น 3.20 บาท/ลิตร หรือลดลง 2.79 บาท/ลิตร โดย กบน. มีมติลดภาระค่าน้ำมันดีเซลให้กับประชาชนทันที 2 บาท/ลิตร ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจะลดลงมาจาก 29.94 บาท/ลิตร เหลือ 27.94 บาท/ลิตร และอีกส่วนหนึ่งจะนำมาเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อให้สามารถดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร ได้ต่อเนื่องนานยิ่งขึ้น เพราะสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเนื่องจากอยู่ในช่วงขาขึ้นยาวนาน
อย่างไรก็ดี ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้จากการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือมีการชดเชยจากกองทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกด้วย ซึ่งรัฐบาลยังคงนโยบายตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร
สำหรับสภาพคล่องกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ประจำเดือน กุมภาพันธ์ 2565 มีรายจ่ายเดือนละ 8,191 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายน้ำมันเดือนละ 6,117 ล้านบาท และรายจ่ายก๊าซ LPG เดือนละ 2,075 ล้านบาท โดยประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ติดลบ 18,151 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน 7,610 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 25,761 ล้านบาท