นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.18 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 32.15 บาท/ดอลลาร์ แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.08 - 32.18 บาท/ ดอลลาร์
"ช่วงเข้าบาทแข็งค่าลงไปทำนิวโลว์ในรอบ 8 เดือน ก่อนที่จะอ่อนค่ากลับมาในช่วงบ่าย แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา" นัก
บริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์นี้ไว้ที่ 32.05 - 32.25 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยที่ตลาดจับตาดูช่วงนี้คือสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน และในวันจันทร์สำนักงานสภาพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ จะมีการแถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่สี่ ทั้งปี 2564 และแนวโน้ม ปี 2565
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 115.16 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 114.86 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1371 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1359 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,713.20 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด, +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 95,680.10 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,035.67 ล้านบาท (SET+MAI)
- นายกรัฐมนตรี ยืนยันกลางที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรยังไม่คิดลาออกจากตำแหน่งตามที่ฝ่ายค้านเรียกร้อง เนื่องจากเห็นว่า
รัฐบาลประสบความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน
- ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยในปี 65 ยังมีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อทิศ
ทางของตลาด ในปีนี้ยังมองว่าผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์จะเห็นการทยอยกลับมาเปิดโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้นในปี 65 โดยเฉพาะ
คอนโดมิเนียม หลังจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้ชะลอการเปิดโครงการใหม่ แต่เริ่มเห็นสัญญาณการเปิดโครงการใหม่มากขึ้นแล้ว เพื่อเพิ่ม
สินค้าทางเลือกให้กับลูกค้า โดยคาดว่าในปี 65 จะมีซัพพลายที่อยู่อาศัยใหม่เพิ่มเข้ามาในตลาด 28% จากปีก่อน หรืออยู่ที่ 85,538 หน่วย
ส่วนใหญ่ยังเป็นบ้านแนวราบ
- เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงภาพรวมการค้าสินค้าเกษตร
ระหว่างประเทศของไทยไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก พบว่า ในปี 64 ไทยสามารถส่งออกสินค้าเกษตรไปตลาดโลก เป็นมูลค่ามากถึง
1.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับปี 63 ส่งผลให้ไทยได้ดุลการค้าสินค้าเกษตรรวม 813,693 ล้านบาท
- องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกคำแนะนำใหม่สำหรับประเทศที่กำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้น โดยอาจ
ร่นระยะเวลากักตัวลงเหลือ 14 วันในบางกรณี โดยแนวทางใหม่นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับประเทศที่บริการด้านสาธารณสุขต้องรับแรงกดดัน
หนัก
- ยอดค้าปลีกของอังกฤษเดือนม.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ หลังจากที่ร่วงลงในเดือนก่อนหน้า เมื่อการแพร่ระบาด
ของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนทำให้ผู้คนต้องอยู่บ้าน
- มอร์แกน สแตนลีย์คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 6 ครั้งในปีนี้ รวมทั้งสิ้น 1.5% ซึ่งเพิ่มขึ้น
เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ รายงานของมอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เมื่อเสร็จสิ้นการ
ประชุมนโยบายในเดือนมี.ค. ตามด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนพ.ค., มิ.ย., และก.ค. และจะปรับขึ้นอีก 2 ครั้ง
ในเดือนก.ย. และธ.ค.
- รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของจีน ให้คำมั่นว่าจะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราที่สูงขึ้น รวมทั้งยกระดับการใช้จ่ายทาง
การคลังแบบเจาะจงเป้าหมาย และคุมเข้มวินัยทางการคลังในปีนี้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจ
มหภาค ก่อนที่การประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 จะเปิดฉากขึ้น