วิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ระบุว่า ตัวเลข GDP ไตรมาส 4/64 ที่ออกมาดีกว่าคาด ไม่ได้สะท้อนถึงปัจจัยบวกเพิ่มเติมต่อมุมมองเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า วิจัยกรุงศรีจึงยังคงคาดการณ์เศรษฐกิจปี 65 จะขยายตัวที่ 3.7% โดย GDP ในไตรมาส 1/65 มีแนวโน้มเติบโตชะลอลงจากไตรมาสก่อน ผลจากการระบาดของไวรัสโอมิครอน
"แต่คาดว่า ผลกระทบจะอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่ค่อนข้างอยู่ในระดับต่ำ มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดมีความเข้มงวดไม่มากเท่ากับการระบาดในรอบก่อนหน้า ประกอบกับการฉีดวัคซีน เพื่อเร่งสร้างภูมิต้านทานเพิ่มขึ้นมาก" บทวิเคราะห์ ระบุ
วานนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) รายงานเศรษฐกิจไทย ไตรมาส 4/64 ขยายตัว 1.9% YoY ดีกว่าที่นักวิเคราะห์และวิจัยกรุงศรีคาดไว้ ส่วนทั้งปี 64 เศรษฐกิจไทยเติบโต 1.6% ดีกว่าที่นักวิเคราะห์และวิจัยกรุงศรีคาดไว้ ส่วนในปี 65 สภาพัฒน์ฯ ยังคงคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไว้ที่ 3.5 - 4.5%
อย่างไรก็ดี คาดว่าในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจยังมีแนวโน้มปรับดีขึ้น ได้ปัจจัยหนุนจาก
1.การเติบโตของภาคส่งออกที่ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ และส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมภาคการผลิตและการลงทุนตามมา
2.ภาคท่องเที่ยวมีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวแม้ยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 อยู่มาก
3. การบริโภคภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวตามมาตรการผ่อนคลาย ประกอบกับได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม (5.32 หมื่นล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่เร่งสูงขึ้นในปัจจุบัน อาจบั่นทอนกำลังซื้อของผู้บริโภค และเป็นผลให้การเติบโตของการบริโภคยังคงมีความแตกต่างกันอยู่มากตามกลุ่มรายได้ สะท้อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังมีแนวโน้มเปราะบาง
ส่วนมาตรการลดภาระค่าครองชีพด้านพลังงาน ช่วยให้ราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ถึงเดือนพฤษภาคม โดยรัฐบาลอนุมัติการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงจากเดิมจัดเก็บ 5.99 บาทต่อลิตร ปรับเป็น 3.20 บาทต่อลิตร หรือลดลง 2.79 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 3 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกในปัจจุบันลดลงจาก 29.94 บาทลิตร เป็น 27.94 บาท/ลิตร ทั้งนี้ ทางการคาดรายได้จากภาษีที่จะสูญเสียจากการออกมาตรการนี้ประมาณ 1.71 หมื่นล้านบาท
ผลจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพ และต้นทุนในการประกอบกิจการ ขณะที่ภาพรวมของเศรษฐกิจกำลังอยู่ในระยะเริ่มต้นของการฟื้นตัว นอกจากนี้ จากผลการวิเคราะห์ของกระทรวงพาณิชย์พบว่าหากราคาน้ำมันดีเซลมีการปรับขึ้น 5 บาท/ลิตร (จาก 25 เป็น 30 บาท/ลิตร) จะส่งผลต่อต้นทุนสินค้าในหมวดต่างๆ เช่น หมวดอาหารและเครื่องดื่มต้นทุนเพิ่มขึ้น 1.45% วัสดุก่อสร้าง 1.2% หมวดของใช้ประจำวัน 1.1% และปัจจัยเกษตร 0.5% เป็นต้น
วิจัยกรุงศรี เห็นว่า มาตรการดูแลราคาน้ำมันดีเซลดังกล่าว มีส่วนช่วยในการชะลอการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าในช่วงที่แรงกดดันจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะสถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลกยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก