กระทรวงการคลังสหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐในเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 34.5% จากสถิติในปีก่อนหน้านี้ แตะระดับ 9.82 หมื่นล้านดอลลาร์
ในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ยอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น 25.6% จากสถิติในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แตะระดับ 1.538 แสนล้านดอลลาร์
รายได้ของรัฐบาลในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณปัจจุบัน ขยับขึ้น 5% จากสถิติในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แตะระดับ 3.292 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายพุ่งขึ้น 10.8% แตะระดับ 4.83 หมื่นล้านดอลลาร์
ในรอบปีงบประมาณที่แล้วซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.2550 ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐร่วงลง 34.4% แตะระดับ 1.628 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี และสะท้อนให้เห็นว่ารายได้ของรัฐบาลขยายตัวรวดเร็วกว่าตัวเลขการใช้จ่าย
ทั้งนี้ ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 4.13 แสนล้านดอลลาร์เมื่อปี 2547 โดยในงบประมาณที่จัดสรรให้กับสภาคองเกรสของสหรัฐในเดือนก.พ.ปี 2551 นั้น รัฐบาลคาดการณ์ว่า จะกำจัดยอดขาดดุลงบประมาณทั้งหมดและจะกลับมามียอดเกินดุลงบประมาณให้ได้ในปี 2555
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ตัวเลขหนี้สินของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการทำสงครามและต้นทุนที่สูงขึ้นจากโครงการใหญ่ๆของรัฐบาล อาทิ โครงการประกันสังคมและสุขภาพ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้สูงอายุถึง 78 ล้านคนอยู่ในวัยเกษียณ สำนักข่าวซินหัวรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--