นักเศรษฐศาสตร์ชี้ยอดใช้จ่ายผู้บริโภคออสซี่ซบเซา จากกระแสกังวลเรื่องดบ.

          นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ยอดการใช้จ่ายผู้บริโภคออสเตรเลียที่ปรับตัวลดลงในเดือนต.ค.เป็นผลมาจากการที่ประชาชนมีความวิตกกังวลว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ขณะที่กระแสความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่บั่นทอนบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยด้วยเช่นกัน          
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ความวิตกกังวลของผู้บริโภคมีขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางออสเตรเลียได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 6.75% ในเดือนพ.ย. หลังจากที่ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราเดียวกันนี้เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา
          ขณะที่ราคาน้ำมันตามสถานีบริการน้ำมันในเดือนพ.ย.ก็ถีบตัวสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่พุ่งขึ้นสู่ระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
          สำนักงานสถิติออสเตรเลียได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาในวันนี้ซึ่งระบุว่า ยอดค้าปลีกในเดือนต.ค.ที่มีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 0.2% จากระดับในเดือนก.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6%                    
          เวน หยวน นักเศรษฐศาสตร์จากออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป กล่าวว่า "ผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนส.ค. และราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นมีส่วนทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาในวันนี้อ่อนแอลง"
          โดยข้อมูลดังกล่าวระบุว่า การใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าในครัวเรือนร่วงลงหนักที่สุด 1.8% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน