นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.26 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 32.45 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีปัจจัยหนุนจากมติศูนย์บริหารสสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)ที่ผ่อนปรน มาตรการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 32.19 - 32.48 บาท/ดอลลาร์
"ทิศทางบาทวันนี้ผันผวนมาก ระหว่างที่อ่อนค่าขึ้นไปแตะ 32.48 บาท/ดอลลาร์ มีข่าว ศบค.ออกมาส่งผลให้เงินบาททยอย ปรับตัวแข็งค่าลงมาทันที" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.30 - 32.35 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดยังคง จับตาดูสถานการณ์ยูเครน หากเกิดการตอบโต้เพียงมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าและการลงทุนคงไม่ส่งผลกระทบมากนัก
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 115.13 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 115.04 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1347 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1333 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,696.45 จุด เพิ่มขึ้น 5.33 จุด, +0.32% มูลค่าการซื้อขาย 87,667.59 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,811.41 ล้านบาท (SET+MAI)
- ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุด
ใหญ่ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน มีมติปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้า
ราชอาณาจักร โดยปรับลดในส่วนการตรวจครั้งที่ 2 ด้วย RT-PCR ในวันที่ 5 หลังจากเดินทางเข้ามาในประเทศ เป็นการตรวจแบบ
ATK แทน พร้อมปรับลดวงเงินประกันสุขภาพนักท่องเที่ยวจากเดิม 50,000 เหรียญสหรัฐ มาเป็นไม่น้อยกว่า 20,000 เหรียญสหรัฐ
- ขุนพลเศรษฐกิจ ประสานเสียงภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 65 ยังมีสัญญาณเป็นบวก และเชื่อว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อ
เนื่อง เชื่อว่าปีนี้จะขยายตัวได้ที่ระดับ 3-4%
- โฆษกคลัง เผยความคืบหน้าการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิทั้งหมด 25.46 ล้านราย และยอดการใช้
จ่ายทั้งสิ้น 40,250 ล้านบาท
- กระทรวงการคลังสหรัฐ ออกแถลงการณ์ห้ามไม่ให้ทำการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลรัสเซียที่ออกหลังจากวันที่ 1 มี.ค.ในตลาด
รอง เพื่อตัดรัสเซียออกจากแหล่งรายได้ต่างๆ ที่ใช้เป็นทุนสนับสนุนรัฐบาลหรือแผนการของประธานาธิบดีปูติน ซึ่งรวมถึงการรุกรานยูเครน
มากขึ้น
- สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังเดือนมี.ค.อาจมีแนวโน้ม
ไม่แน่นอนมากขึ้น หากรัสเซียบุกยูเครน เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันและน้ำมันเบนซินแพงขึ้น ซึ่งเป็นค่าใช้จ่าย
ก้อนใหญ่สำหรับชาวอเมริกันจำนวนมาก อีกทั้งผู้บริโภคในสหรัฐยังเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐประมาณ 70% อีกด้วย
- บรรดานักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ราคาน้ำมันจะเป็นตัวขับเคลื่อนนโยบายเฟดในที่สุด โดยเริ่มแรกราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นจะ
เป็นตัวเร่งให้เกิดเงินเฟ้อ และในที่สุดก็อาจกลายเป็นภาวะเงินฝืด หากราคาน้ำมันสูงขึ้นต่อเนื่องยาวนานจนทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจ
ชะลอลง
- เจพีมอร์แกนเผยผลสำรวจความคิดเห็นประจำปีระบุว่า นักลงทุนมองว่า ภาวะเงินเฟ้อจะยังส่งผลกระทบต่อตลาดทั่วโลกใน
ปี 2565 ขณะที่สภาพคล่องยังเป็นความท้าทายอันดับหนึ่งในการซื้อขายรายวันต่อเนื่องเป็นปีที่ 6
- กรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เผย ECB อาจเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนยุติโครงการซื้อ
พันธบัตร โดยอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้