นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (RSI) เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าหลายภูมิภาค สะท้อนความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น ทั้งในภาคเกษตร และอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออก
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ระดับ 69.4 ปรับเพิ่มจากเดือนก่อน แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากคำสั่งซื้อในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคบริการในอนาคตที่ดีขึ้น จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ตามมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น
- ภาคใต้
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ อยู่ที่ระดับ 69.2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน โดยเป็นความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นในภาคเกษตร เนื่องจากคาดว่าพืชเศรษฐกิจที่สำคัญจะเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ได้แก่ ทุเรียน และยางพารา เป็นต้น และมีปัจจัยสนับสนุน ในภาคบริการจากการกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศรูปแบบ Test & Go อีกครั้ง
- ภาคตะวันออก
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันออก อยู่ที่ระดับ 67.3 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ตามแนวโน้มการส่งออกที่ขยายตัว และในภาคเกษตร จากการเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น สับปะรด และมันสำปะหลัง เป็นต้น ประกอบกับปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อการเพาะปลูก
- ภาคตะวันตก
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันตก อยู่ที่ระดับ 64.9 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ยังดีขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นในภาคบริการ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ประกอบกับธุรกิจภาคบริการหลายแห่งกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ สำหรับความเชื่อมั่นในภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากความต้องการสินค้าเกษตรของประชาชนในพื้นที่มีเพิ่มขึ้น
- ภาคกลาง
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลาง อยู่ที่ระดับ 58.2 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในภาคเกษตร เนื่องจากคาดว่าความต้องการสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น เช่น มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น ประกอบกับสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก และในภาคการลงทุน เนื่องจากจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนเพิ่มขึ้น
- ภาคเหนือ
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนือ อยู่ที่ระดับ 56.5 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในภาคบริการ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และการกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ รูปแบบ Test & Go อีกครั้ง และในภาคการจ้างงาน จากการที่ธุรกิจหลายแห่งกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น
- กทม. และปริมณฑล
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของ กทม. และปริมณฑล อยู่ที่ระดับ 55.4 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นในภาคเกษตร เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก และในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมและความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมของประชาชนในพื้นที่เพิ่มขึ้น