สหรัฐคาดราคาพลังงานที่สูงขึ้นอาจกระทบให้ความต้องการพลังงานค่อยๆลดลง

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 13, 2007 09:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          รัฐบาลสหรัฐกล่าวในรายงานว่า ราคาพลังงานที่สูงขึ้นและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้อัตราการใช้พลังงานของประเทศลดลงในปี 2573
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแหล่งพลังงานหมุนเวียนและพลังงานนิวเคลียร์จะขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่แนวโน้มพลังงานรายปีจากสำนักงานข้อมูลพลังงานในสังกัดกระทรวงพลังงานระบุว่า น้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติจะเป็นพลังงานที่ครองตลาดพลังงานของสหรัฐ ด้วยส่วนแบ่งตลาดราว 84% ในปี 2573 เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติประมาณ 86% ในปีที่แล้ว
ความต้องการพลังงานโดยรวมคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.9% ต่อปีตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2573 ซึ่งลดลงจากที่ได้คาดการณ์ไว้เมื่อปีที่แล้วที่ระดับ 1.1%
สำนักงานข้อมูลพลังงานกล่าวว่า ราคาน้ำมันในปี 2559 คาดว่าจะปรับตัวลดลงจากระดับในปัจจุบัน เนื่องจากการลงทุนใหม่ๆได้เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้อุปทานน้ำมันเพิ่มขึ้น แต่จะยังคงแตะระดับ 113 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2573 โดยราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า Light Sweet Crude ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาด NYMEX แตะระดับประมาณ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ทั้งนี้ อัตราการใช้เอธานอลในสหรัฐคาดว่าจะขยายตัวขึ้น 1.35 หมื่นล้านแกลลอนในปี 2555 สูงกว่าที่รัฐบาลสหรัฐได้ออกกฎหมายไว้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายด้านพลังงานในปี 2548 ที่ระดับ 7.5 พันล้านแกลลอน และมากกว่ายอดใช้ที่ระดับ 5.6 พันล้านแกลลอนในปี 2549 โดยในปี 2573 คาดว่ายอดใช้เอธานอลจะแตะระดับ 1.7 หมื่นล้านแกลลอน
ขณะเดียวกัน อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิตพลังงาน คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 25% ในปี 2549-2573 สำนักข่าวเอพีรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ