นายฉลองภพ สุสังกร์กาญณ์ รมว.คลัง กล่าวว่า ในปีหน้าจากการที่รัฐบาลจะมีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่(เมกะโปรเจคต์) ซึ่งจะมีการนำเข้าสินค้าและบริการต่างๆ มากขึ้น น่าจะมีส่วนช่วยในเรื่องการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ได้
สำหรับการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน รมว.คลัง กล่าวว่า จะพยายามให้เงินบาทเกาะกลุ่มกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศคู่ค้า
"ส่วนจะมีการยกเลิกขณะนี้หรือไม่ขึ้นกับภาวะ หากภาวะปกติก็ไม่มีความจำเป็น แต่ที่ผ่านมาไม่ได้อยู่ในภาวะปกติ" รมว.คลัง กล่าว
ในการพิจารณาจะผ่อนคลายมาตรการกันสำรอง 30% จะต้องดูปัจจัยทั้งในและนอกประเทศ
อย่างไรก็ตาม ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คงจะมีการแถลงผลปฎิบัติในรอบ 1 ปี สำหรับการใช้มาตรการกันสำรอง 30%ในวันครบ 1 ปีของมาตรการนี้
รมว.คลัง กล่าวถึงเป้าหมายการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ในปีหน้าที่ปรับลดลงจากปีนี้ เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจของทางสหรัฐ แต่หากสามารถทำได้ตามเป้าหมายก็จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีหน้า ที่แม้ว่าหลักๆ จะมาจากการลงทุนภาคเอกชน
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--