นักวิเคราะห์คาดตลาดหุ้นเอเชียคึกคักสัปดาห์หน้าหลังนลท.คลายวิตกซับไพรม์

          บรรดานักวิเคราะห์จากหลายสำนักคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียจะปรับตัวขึ้นอย่างคึกคักในปีหน้า จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.50% ในที่ประชุมวันอังคารนี้ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากปัญหาในตลาดสินเชื่อและอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งการประกาศแผนช่วยเหลือเจ้าของบ้านไม่ให้เผชิญกับการถูกยึดบ้านของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช อาจช่วยให้สหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศมีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกรอดพ้นจากภาวะถดถอยได้
          ขณะนี้ตลาดเริ่มมีมุมมองในแง่บวกเพิ่มขึ้นว่า แผนการให้ความช่วยเหลือผู้กู้ซื้อบ้านของทำเนียบขาวและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยพยุงให้เศรษฐกิจสหรัฐสามารถฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤตซับไพรม์ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดหุ้นในเอเชียเคลื่อนไหวคึกคักขึ้นตามไปด้วย
          อาเดรียน โมวัต นักวิเคราะห์จากเจพี มอร์แกนกล่าวว่า "นักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลและมองเห็นถึงโอกาสการขยายตัวในตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะตลาดในแถบเอเชีย และคาดว่า ตลาดหุ้นจะเคลื่อนไหวอย่างร้อนแรงไปจนถึงสิ้นปีนี้
          โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประธานาธิบดี จอร์ช ดับเบิลยู บุชได้ประกาศแผนการของรัฐบาลที่จะให้มีการตรึงอัตราดอกเบี้ย 5 ปีและอนุญาตให้ลูกหนี้สามารถรีไฟแนนซ์เงินกู้จำนองได้ เพื่อช่วยให้เจ้าของบ้านประมาณ 1.2 ล้านรายไม่ต้องถูกยึดบ้าน
           ด้านนายเจอรัลด์ แอมบรอส นักวิเคราะห์จากอาร์เบอร์ดีน แอซเซท เมเนจเมนท์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นตลาดจะมีปฏิกิริยาขานรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเชิงบวก โดยแรงกดดันการขึ้นดอกเบี้ยในเอเชียจะลดลง ขณะที่นักลงทุนเริ่มกล้าพอที่จะซื้อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์กันมากขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้ว นักลงทุนก็จะเข้าใจได้ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด และวิกฤตในตลาดสินเชื่อจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว
          ขณะเดียวกัน มีนักวิเคราะห์บางกลุ่มเชื่อว่า ตลาดจะไม่ขานรับการปรับลดดอกเบี้ยมากนัก เนื่องจากนักลงทุนได้ซึมซับปัจจัยดังกล่าวไปแล้วหลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดออกมาส่งสัญญาณที่ชัดเจนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
          โดยนายโมวัตกล่าวว่า "ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจเรียกได้ว่าเป็นข่าวดี แต่สำหรับตลาดหุ้นฮ่องกงนั้นอาจจะมีการส่งแรงเทขายทำกำไรของหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ออกมาทันทีที่เฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ย"