ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ดอลล์แข็งเทียบยูโร หลัง FED ลดดอกเบี้ยน้อยกว่าคาด

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) ค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นเพียง 0.25% ซึ่งต่ำกว่าที่เทรดเดอร์คาดการณ์ไว้
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.4675 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4712 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 2.0356 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.0462 ดอลลาร์ต่อปอนด์
          อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนตัวลงแตะระดับ 110.82 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 111.67 เยนต่อดอลลาร์
          เมื่อคืนนี้ เฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นอีก 0.25% สู่ระดับ 4.25% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทมาตรฐานลงอีก 0.25% สู่ระดับ 4.75% จากเดิมที่ระดับ 5.00% นอกจากนี้ เฟดยังส่งสัญญาณว่าอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหากตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดปล่อยกู้จำนองเข้าขั้นวิกฤติ
          เฟดได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า "ข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดได้รับมาเมื่อไม่นานมานี้บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังชะลอตัวลง สะท้อนให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ปรับฐานลงและตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคเอกชนก็ชะลอตัวลงด้วย"
          นอกจากนี้ เฟดระบุเรื่องเงินเฟ้อว่า "ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อ ได้ปรับตัวขึ้นปานกลางในปีนี้ แต่ราคาพลังงานและราคาสินค้าโภคภัณ์ฑ์พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เฟดเล็งเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ และเฟดจะติดตามดูเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง"
          นายเดวิด กิลมอร์ นักวิเคราะห์จากฟอเรนจ์ เอ็กซ์เชนจ์ อนาไลติกส์กล่าวว่า "เทรดเดอร์ในตลาดปริวรรตเงินตราคาดการณ์ไว้ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลงถึง 0.50% ซึ่งการที่เฟดลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าเฟดจะสามารถยับยั้งภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อได้หรือไม่"
          "นักลงทุนผิดหวังที่เฟดลดอัตราดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อย จึงได้เทขายหุ้นในตลาดนิวยอร์ก ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 300 จุด แต่การที่เฟดลดอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าคาดถือเป็นปัจจัยบวกต่อดอลลาร์สหรัฐ" เขากล่าว
          เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางอังกฤษประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.5% จากเดิมที่ระดับ 5.75% ซึ่งเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวลง และ ธนาคารกลางยุโรป ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมที่ 4.0% หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อในยุโรปพุ่งสูงขึ้น