นักวิเคราะห์จากศูนย์ศึกษาพลังงานโลกกล่าวว่า เศรษฐกิจโลกสามารถรับมือกับวิกฤติน้ำมันแพงระลอกที่ 3 ได้ โดยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกขณะนี้พุ่งขึ้นใกล้แตะระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากราคาน้ำมันทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
นายลีโอ ดรอลลัส นักวิเคราะห์จากศูนย์ศึกษาพลังงานโลกกล่าวว่า "เศรษฐกิจโลกยังคงแข็งแกร่ง แม้ถูกคุกคามจากวิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ ไม่เหมือนกับในปี 2516 และ 2523 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกชะงักงันเนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น"
"ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรากำลังเผชิญวิกฤติน้ำมันแพงระลอกที่ 3 เพราะในปี 2547 ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันเคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเข้าไปทุกขณะ" เขากล่าว
ความต้องการน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นจากจีนและอินเดียมีส่วนทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น ส่วนวิกฤติน้ำมันแพงระลอกแรกเกิดขึ้นในปี 2516 หลังจากกลุ่มโอเปคประกาศระงับขนส่งน้ำมันดิบให้กับสหรัฐ ยุโรปตะวันตก และญี่ปุ่น เพื่อตอบโต้ที่ประเทศเหล่านี้สนับสนุนอิสราเอลให้โจมตีซีเรียและอียิปต์ในช่วงสงครามยมคิบปูร์ (Yom Kippur War) และวิกฤติน้ำมันแพงระลอกที่ 2 เกิดขึ้นใน 2523 หลังจากเกิดการปฏิวัติในอิหร่าน สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--