ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนก.พ. 65 อยู่ที่ระดับ 43.3 จากเดือนม.ค.65 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 44.8
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 37.2, ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำ อยู่ที่ 40.0 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 52.6
สำหรับปัจจัยลบ ประกอบด้วย ประชาชนกังวลต่อการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปทั่วประเทศ, ความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่เริ่มเข้ามาในช่วงปลายเดือนก.พ., ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวสูงขึ้น, ผู้บริโภคยังกังวลว่าเศรษฐกิจยังชะลอตัว รวมทั้งปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้นจากราคาสินค้าที่อยู่ในระดับสูง, ความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ และเงินบาทปรับตัวแข็งค่าจากเดือนม.ค.
ขณะที่ปัจจัยบวก ได้แก่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เผยอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาส 4/64 ขยายตัวได้ 1.9% ส่งผลให้ทั้งปี 64 GDP ขยายตัวได้ 1.6% ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ 1.2% ขณะที่คาดว่า GDP ในปี 65 จะขยายตัวได้ 4%, คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมที่ 0.50%, รัฐบาลยังมีมาตรการเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคในประเทศ เช่น ช้อปดีมีคืน คนละครึ่ง, ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ผ่อนคลายมาตรการสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทย, การฉีดวัคซีนป้องกันโควิดของทั่วโลกรวมทั้งไทยสามารถทำได้เพิ่มมากขึ้น และราคาพืชผลเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น