พาณิชย์อนุมัติขายข้าวในสต๊อก 5.1 แสนตันทำรายได้เข้ารัฐกว่า 5.3 พัน ลบ.

          กระทรวงพาณิชย์รับทรัพย์กว่า 5.3 พันล้านบาทหลังอนุมัติขายข้าวในสต๊อกรัฐอีก 5.1 แสนตันให้เอกชน 12 ราย พร้อมมั่นใจการส่งออกข้าวของไทยในปี 50 จะสูงถึง 9.2 ล้านตันทะลุเป้าหมายที่กำหนดไว้  
          "รัฐมนตรีพาณิชย์(นายเกริกไกร จีระแพทย์)ได้อนุมัติจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลให้เอกชน 12 ราย รวม 511,729 ตัน หลังจากเปิดประมูลไปเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยสามารถต่อรองราคาได้เงินเพิ่มอีก 145 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลได้เงินจากการขายข้าวสารครั้งนี้ 5,3346 ล้านบาท และยังลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาได้เดือนละ 14.5 ล้านบาท หรือปีละ 174 ล้านบาท" นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าว
          การขายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการข้าวเพื่อการส่งออกซึ่งมีปริมาณสูง เพราะผู้ส่งออกมีคำสั่งซื้อจากผู้นำเข้าต่างประเทศจึงจำหน่ายได้ในราคาสูง เหมาะสมกับภาวะตลาด และเป็นการระบายข้าวให้กับผู้เสนอซื้อหลายราย ซึ่งจะบรรเทาการตึงตัวของปริมาณความต้องการข้าวในตลาดระหว่างช่วงต้นฤดูกาล โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-11 ธ.ค.50 ไทยส่งออกข้าวไปได้แล้ว 8.74 ล้านตัน มูลค่า 113,147 ล้านบาท โดยทั้งปีคาดส่งออกถึง 9.2-9.4 ล้านตัน
          สำหรับเอกชนทั้ง 12 รายที่ชนะการประมูล แบ่งเป็น ข้าวขาว 5% จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2549 เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ 409,989 ตัน มีผู้ชนะ 9 ราย ซื้อข้าวระหว่างตันละ 10,150 — 10,720 บาท ได้แก่ บริษัท พงษ์ลาภ, บริษัท แคปปิตัลซีเรียล, บริษัท ไทยฟ้า(2511), บริษัท อิสเทิร์นไรซ์, บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด, บริษัท เอเซียโกลเด้นไรซ์ เป็นต้น 
          ส่วนข้าวขาว 5% จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 2549/50 เพื่อส่งออก 101,740 ตัน มีผู้ชนะ 3 ราย โดยซื้อข้าวราคาระหว่างตันละ 10,550 — 10,660 บาท ได้แก่ บริษัท อิสเทิร์นไรซ์, บริษัท ไชยพรไรซ์แอนด์ฟู้ดโปรดักส์ และบริษัท สามเกษตรมิลล์ 2.9 พันตัน
          อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีบริษัทค้าข้าวรายหนึ่งเข้าร่วมประมูลครั้งนี้ และถูกเอกชนตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นนอมินีของยักษ์ค้าข้าวรายใหญ่รายหนึ่งที่เคยมีปัญหาไม่มารับมอบข้าวกับภาครัฐนั้น กลับไม่มีรายชื่อเป็นผู้ชนะการประมูลข้าวทั้งๆ ที่เป็นผู้เสนอราคาซื้อข้าวสูงสุดจากการเปิดซองเสนอราคาในวันเปิดประมูล