น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านน้ำมันเชื้อเพลิงหากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนมีความยืดเยื้อและมีเหตุฉุกเฉินที่ส่งสัญญาณว่าอาจจะกระทบกับแผนการจัดหาน้ำมันดิบของประเทศนั้น กรมฯ ได้ประสานผู้ค้าเตรียมพร้อมที่จะประกาศเพิ่มอัตราสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงตามกฎหมาย น้ำมันดิบเป็น 5% จากเดิม 4% และน้ำมันสำเร็จรูปเป็น 2% จากเดิม 1% เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถรักษาเสถียรภาพพลังงานได้ โดยไม่กระทบการดำรงชีพของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนยังไม่กระทบกับการจัดหาพลังงานของไทย เนื่องจากมีการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียเพียง 3% เท่านั้น