นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน กล่าวในการชี้แจงสถานการณ์ราคาพลังงานว่า รัฐบาลยืนยันว่าจะดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร ตามความสามารถของเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงหลังจากที่ได้ขยายเพดานการกู้เงินเป็น 4 ล้านบาท ส่วนจะตรึงได้ยาวนานแค่ไหนต้องขึ้นกับสถานการณ์
ในระหว่างนี้กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) อยู่ระหว่างการหารือเพื่ออกมาตรการเสริมหากราคาพลังงานยังคงปรับตัวสูงขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
สำหรับในส่วนค่าไฟฟ้า ยอมรับว่าอาจจะมีการปรับขึ้นบ้าง แต่ก็จะพยายามดูแลให้อยู่ภายใต้กรอบที่คณะกรรมการกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ แบบขั้นบันได ประมาณ 16 สตางค์/งวด Ft แต่ราคาดังกล่าวเป็นการคำนวณตามสมมติฐาน ณ ช่วงเวลานั้น
ในส่วนราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) หลังสิ้นสุดมาตรการตรึงราคา 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ในวันที่ 31 มี.ค.65 จะทยอยปรับขึ้นราคา 1 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 333 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอยู่ระหว่างหามาตรการในการช่วยเหลือดูแลกลุ่มเปราะบางทั้งในเรื่องของค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม
ส่วนกรณีของผู้ใช้เบนซินอยู่ระหว่างพิจารณาในรายละเอียดต่างๆ
"ด้วยสถานการณ์ขณะนี้ ทำให้ราคาพลังงานสูงสุดในรอบ 14 ปี แม้จะลงไปบ้างแล้ว แต่ยังประมาทไม่ได้ คนไทยต้องช่วยกันประหยัดพลังงาน การลดใช้น้ำมัน ไฟฟ้าลง 10% ไม่ยาก โดยอยากให้ดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อลดภาระประเทศ สร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจได้ดี"