ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.28 อ่อนค่าตามภูมิภาค ตลาดกังวลเงินเฟ้อสหรัฐสูงหนุนแรงซื้อดอลลาร์

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 11, 2022 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.28 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.15 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.13 - 33.31 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเย็นนี้อ่อนค่าไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่า หลังจากวานนี้สหรัฐเปิดเผยดัชนี ราคาผู้บริโภค (CPI) ส่งผลให้ตลาดกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และ Stagflation ทำให้วันนี้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์และขายตัวอื่นๆ ออกมา

"วันนี้เงินเยนขึ้นมาอยู่ที่ 117.00 เยน/ดอลลาร์ ถือว่าอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 5 ปี ตั้งแต่เดือน ม.ค.60 ปัจจัยเหมือนเงิน บาท คือ กังวลเรื่องเงินเฟ้อ ซึ่งโดยปกติแล้วหากตลาดกังวลเรื่องเงินเฟ้อ เงินเยนก็จะถูกขายออกมาเยอะ" นักบริหารเงิน ระบุ

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในช่วงนี้ คือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน

นักบริหารเงิน คาดว่า ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 33.20 - 33.40 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.00 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 116.25 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0965 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0987 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,658.01 จุด เพิ่มขึ้น 10.93 จุด (+0.66%) มูลค่าการซื้อขาย 78,506 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,640.40 ลบ.(SET+MAI)
  • กรมธุรกิจพลังงาน ประสานผู้ค้าเตรียมพร้อมที่จะประกาศเพิ่มอัตราสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงตามกฎหมาย โดยน้ำมันดิบเป็น
5% จากเดิม 4% และน้ำมันสำเร็จรูปเป็น 2% จากเดิม 1% เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านน้ำมันเชื้อเพลิงหากสถานการณ์รัสเซีย-
ยูเครนมีความยืดเยื้อและมีเหตุฉุกเฉินที่ส่งสัญญาณว่าอาจจะกระทบกับแผนการจัดหาน้ำมันดิบของประเทศ
  • สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบีไทย คาดสถานการณ์ราคาน้ำมันจะขึ้นไปพีคสุดในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งหากขึ้นไปแตะระดับ
150 ดอลลาร์/บาร์เรล ก็จะทำให้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีนี้อยู่ที่ระดับ 4-5% และจะทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง 0.3% จากกรณีฐาน
  • กระทรวงการคลัง เผยความคืบหน้ามาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 ประกอบด้วย โครงการเพิ่ม
กำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4, โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 และ
โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 พบว่าจากข้อมูลสะสม ณ วันที่ 10 มี.ค.65 มีผู้ใช้สิทธิทุกโครงการรวม 40.81 ล้านราย และมียอดใช้จ่าย
รวมทั้งหมด 58,552 ล้านบาท
  • ธนาคารกลางรัสเซีย เปิดเผยผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อในรัสเซียมีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ
20% และเศรษฐกิจรัสเซียเสี่ยงหดตัวมากถึง -8% ในปีนี้
  • นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ระดับ 5.5% ซึ่งเป็นตัวเลขเป้า
หมายของรัฐบาลสำหรับปีนี้ จะช่วยสร้างผลผลิตให้กับจีนเทียบเท่ากับขนาดของเศรษฐกิจระดับกลาง
  • ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่า รัสเซียจะเจอแรงกดดันให้ยุติสงครามในยูเครนเพิ่มขึ้น หลัง
นานาประเทศได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสงครามดังกล่าว
  • นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2565 ลงสู่ระดับ 2.9% จาก
เดิม 3.1%โดยคาดว่าราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ที่พุ่งขึ้นนับตั้งแต่รัสเซียเข้าบุกยูเครน จะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่าย
  • สัปดาห์หน้าสหรัฐฯ มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ดังนี้ ยอดค้าปลีกเดือนก.พ., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน มี.ค.,
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ยนโยบาย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
รายสัปดาห์ และดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค. เป็นต้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ