นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลวัตถุดิบอาหารสัตว์และกลุ่มผู้เลี้ยงสุกร, ไก่ และกุ้ง เห็นด้วยกับแนวทางการปรับลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองจาก 4% ลงเหลือ 0% เป็นระยะเวลา 1 ปี สิ้นสุด 31 ธ.ค.51 เพื่อแก้ปัญหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาแพง และช่วยลดต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ให้เกษตรกร
ทั้งนี้ กรมการค้าภายในจะนำเสนอแนวทางดังกล่าวให้แก่คณะกรรมการนโยบายอาหาร ที่มีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน เพื่อพิจารณาในวันพรุ่งนี้(13 มี.ค.)
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ผลจากการปรับลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองจะทำให้ผู้เลี้ยงสัตว์มีต้นทุนถูกลง, ผู้ผลิตอาหารสัตว์จะมีต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ถูกลง, โรงงานสกัดน้ำมันถั่วเหลืองจะขายกากถั่วเหลืองจากเมล็ดนำเข้าได้ตามปกติ และขายกากจากเมล็ดในประเทศได้ไม่ต่ำกว่าราคาที่กำหนด
ขณะที่เกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองจะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะยังขายได้ไม่ต่ำกว่าราคาที่กำหนด ส่วนผู้บริโภคจะได้ประโยชน์มากที่สุดเพราะซื้อเนื้อสัตว์ได้ในราคาถูกลง เพียงแต่ภาครัฐอาจจะเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีปีละกว่า 800 ล้านบาท
นางพรศรี เหล่ารุจิสวัสดิ์ ผู้จัดการสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย กล่าวว่า สมาคมเห็นด้วยกับการปรับลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลือง เพราะต้นทุนการเลี้ยงไก่จะถูกลง โดยจะทำให้ต้นทุนการเลี้ยงไก่ลดลง 40 สตางค์/ตัว
ด้านนายสมปอง ชาววังไทร นายกสมาคมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย กล่าวว่า การปรับลดภาษีกากถั่วเหลือง จะช่วยให้ต้นทุนของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งลดลง 30 สตางค์/กก.
นายกิตติวงค์ สมบุญธรรม เลขาธิการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า ต้นทุนการเลี้ยงหมูจะถูกลง 38 บาท/ตัว โดยแต่ละปีจะมีการผลิตหมูทั้งสิ้น 14 ล้านตัว การลดภาษีจะช่วยลดต้นทุนในอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมู 532 ล้านบาท นอกจากนี้ยังจะทำให้ราคาเนื้อหมูถูกลงด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--