ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า (21-25 มี.ค.) ไว้ที่ 33.00-33.70 บาท/ดอลลาร์ จากสัปดาห์นี้ที่แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน ก่อนดีดตัวกลับช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงขายสุทธิพันธบัตรไทยของต่างชาติและการอ่อนค่าของสกุลเงินเอเชียท่ามกลางความกังวลต่อสงครามยูเครน-รัสเซีย ซึ่งหนุนเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย
อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น ขณะที่เงินดอลลาร์เผชิญแรงขายทำกำไร หลังผลการประชุมเฟดสอดคล้องกับที่ตลาดคาด โดยมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปที่กรอบ 0.25-0.50% และส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องใน 6 รอบการประชุมที่เหลือของปีนี้ กรอบการแข็งค่าของเงินบาทจำกัดลงช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากตลาดรอติดตามวิกฤตยูเครนอย่างใกล้ชิด
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ตัวเลขส่งออกไทยเดือนก.พ. และสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ. ยอดขายบ้านที่รอปิดการขายและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามอัตราดอกเบี้ย LPR ของธนาคารกลางจีน ดัชนี PMI เดือนมี.ค. (เบื้องต้น) ของอังกฤษ ยูโรโซน และสหรัฐฯ และอัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ. ของอังกฤษเงินบาท
ในวันศุกร์ (18 มี.ค.) เงินบาทปิดตลาดที่ 33.35 บาท/ดอลลาร์ (หลังแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือนที่ 33.55 บาท/ดอลลาร์ในช่วงต้นสัปดาห์) เทียบกับระดับ 33.29 บาท/ดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (11 มี.ค.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 14-18 มี.ค. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยรวม 1.11 หมื่นล้านบาท แต่มีสถานะเป็น NET OUTFLOW ในตลาดพันธบัตร 8.37 พันล้านบาท (ขายสุทธิ 6.12 พันล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 2.25 พันล้านบาท)