นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า การส่งออกเดือน ก.พ.65 มีมูลค่า 23,483.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 16.2% จาตลาดคาดขยายตัว 10-11% ขณะที่มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 23,359.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 16.8% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 123.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับการส่งออกช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ก.พ.65) มีมูลค่ารวม 44,741.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.2% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่ารวม 47,144.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้า 2,403.1 ล้านเหรียญสหรัฐ
ปัจจัยที่สนับสนุน มาจากภาคการผลิตทั่วโลกยังขยายตัว จากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตโลก อยู่เหนือระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 20 จะเป็นโอกาสสำหรับการส่งออกของไทย และค่าระวางเรือและการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น แต่ยังไม่รวมผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้โลจิสติกส์ ค่าระวางเรือ ตู้คอนเทนเนอร์มีปัญหา โดยผลกระทบจากสงครามที่มีต่อการส่งออกไทยจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นไป ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากมีผลกระทบด้านใด จะเร่งแก้ปัญหาร่วมกับภาคเอกชน
สำหรับตลาดส่งออกสำคัญ ที่ขยายตัวสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.รัสเซีย เพิ่ม 33.4% 2.อาเซียน 5 ประเทศ เพิ่ม 31.5% 3.ฮ่องกง เพิ่ม 29.8% 4.เกาหลีใต้ เพิ่ม 28.9% 5.สหรัฐฯ เพิ่ม 27.2% 6.อินเดีย เพิ่ม 23% 7.ไต้หวัน เพิ่ม 17.7% 8.สหราชอาณาจักร เพิ่ม 17.3% 9.CLMV เพิ่ม 14.4% 10.ตะวันออกกลาง เพิ่ม 13.8% แต่รายละเอียดสินค้า ยังไม่มี เนื่องจากมีการเปลี่ยนระบบพิกัดภาษีศุลกากรในรอบ 5 ปี ซึ่งต้องรออีกระยะ ถึงจะแยกออกมาได้
รมว.พาณิชย์ ระบุว่า ในเดือนก.พ.65 การส่งออกไทยยังไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยคาดว่าน่าจะเริ่มเห็นชัดเจนตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นไป แต่ก็อาจมีผลดีต่อไทยด้วยที่จะส่งออกสินค้าไปทดแทนสินค้าของรัสเซีย ในประเทศที่เป็นตลาดส่งออกของรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ยังยืนยันเป้าหมายมูลค่าส่งออกปีนี้ขยายตัวไว้ที่เดิม คือ 3-4% จากปี 64 มูลค่า 280,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะจะมีตลาดซาอุดิอาระเบียเข้ามาเพิ่มยอด โดยสัปดาห์หน้าไทยจะส่งออกไก่ไปซาอุดิอาระเบียล็อตแรก หลังจากที่ห้ามนำเข้ามาหลายปี ขณะที่คาดว่าการส่งออกข้าวในปี 65 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 7 ล้านตันจากปีก่อนอยู่ที่ 6.4 ล้านตัน