(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.45/48 แนวโน้มแข็งค่า ให้กรอบ 33.30-33.70 จับตาประชุมกนง.สัปดาห์หน้า

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 25, 2022 11:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.45/48 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.65 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทคาดว่ายังมีทิศทางที่แข็งค่าต่อ โดยวันนี้อาจจะยังไม่มีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามมาก ยังคงเป็นปัจจัยเดิมจาก สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะที่ปัจจัยในประเทศต้องไปรอสัปดาห์หน้า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบาย การเงิน (กนง.) ว่าจะมีทิศทางเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างไร

"วันนี้บาทน่าจะยังไปในทิศทางแข็งค่า เพราะคงไม่ผ่านแนวต้าน ปัจจัยตอนนี้ยังไม่มีอะไรใหม่ ยังเป็นเรื่องสงครามรัส เซีย-ยูเครน ส่วนปัจจัยในประเทศ รอดู กนง.สัปดาห์หน้า" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.30 -33.70 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (24 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.42139% ส่วน THAI BAHT FIX 6M 0.54023%

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 33.53750 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 121.80 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 121.60 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1000 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0922 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 33.649 บาท/
ดอลลาร์
  • รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน ด้านการพาณิชย์
(กรอ.พาณิชย์) ว่า ได้ประเมินผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่มีต่อไทย โดยสิ่งที่น่าห่วงคือ สถานการณ์ที่ไม่นิ่ง และความ
สับสนในเรื่องของห่วงโซ่การผลิต และการขนส่ง เพราะมีสินค้าทุนบางรายการ ที่ 2 ประเทศเป็นผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ เกิด
การชะงัก เช่น ปุ๋ย ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอีกทั้งยังมีการปิดท่าเรือบางแห่งของยูเครน และต้องเปลี่ยนท่าเรือขนส่งสินค้า ทำให้
ห่วงโซ่ผลิตสินค้า การขนส่งปั่นป่วน และกระทบต่อการค้าโลก
  • รมว.คลัง หวังใช้สินทรัพย์ดิจิทัลระดมทุน รับ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ด้านแบงก์ชาติ ระบุสกุลเงิน คริปโทเคอร์
เรนซี่ยังเสี่ยง จำเป็นต้องล้อมรั้วการลงทุน หวั่นเกิดเก็งกำไร เอื้อธุรกิจฟอกเงิน
  • สศช.-ธปท.-สศค.ประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยไว้ 3 สมมติฐานหลังเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน โอกาสเศรษฐกิจ
ขยายตัวยังไม่ต่ำกว่า 3% แต่กังวลราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกจะพุ่งถึง 46 บาทต่อ
ลิตร เงินเฟ้อสูงถึง 7%
  • ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวในการสัมมนาในหัวข้อ "เศรษฐกิจชะลอตัวท่าม
กลางเงินเฟ้อสูง (Stagflation) ในภาวะสงคราม" ว่าเศรษฐกิจโลกกำลังถอยหลัง โดยได้รับผลกระทบจากได้รับผลกระทบจาก
การระบาดของโรคโควิด-19 แล้วซ้ำเติมด้วยสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดภาวะชะลอตัวท่าม
กลางเงินเฟ้อสูง (Stagflation) หมายถึง ของแพงขึ้น ขณะที่รายได้ลดลง สาเหตุหลักมาจากข้อจำกัดทางด้านอุปทาน อีกทั้ง
มาตรการการคว่ำบาตรจากนานาชาติต่อรัสเซียจะทำให้สินค้าขาดแคลนจากตลาดโลกไปอีก
  • รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ของสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว
(แอตต้า) ว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเสนอต่อที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในนัดหมายหลังเทศกาลสงกรานต์ จะให้ในเดือน พ.ค.
ผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักรเพิ่มเติม ยกเลิกการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ในวันแรกที่เดินทางมา
ถึงไทย และเปลี่ยนมาใช้วิธีการตรวจด้วย ATK โดยสถานพยาบาลรับรองผลการตรวจแทน เมื่อผลตรวจเป็นลบถึงจะสามารถออก
เดินทางท่องเที่ยวได้ เริ่มวันที่ 1 พ.ค.2565
  • ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) ระบุว่า เศรษฐกิจยูโรโซนกำลังถูกกระทบ เนื่องจาก
อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและปัญหาห่วงโซ่อุปทานรอบใหม่ หลังจากการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนทำให้ต้นทุนพลังงานพุ่งขึ้น และส่งผล
กระทบต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเอสแอนด์พี โกลบอลทำการสำรวจดังกล่าวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามรัส
เซีย-ยูเครนได้เริ่มส่งผลกระทบต่อยูโรโซน
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 28,000 ราย สู่ระดับ 187,000
รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2512 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 212,000
ราย
  • นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมครั้งต่อ
ไปในเดือนพ.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในวันนี้ รวมทั้งการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดในช่วงที่ผ่านมา
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี
(24 มี.ค.) ขานรับการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับ
ขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพฤหัสบดี (24 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดิน
หน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ และผลกระทบของการทำสงครามระหว่างรัส
เซียและยูเครน
  • นักลงทุนจับตาการประชุมฉุกเฉินขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งเปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้
เพื่อหามาตรการตอบโต้รัสเซียจากการที่ส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้เดินทางถึงกรุ
งบรัสเซลส์แล้ว และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของ 3 กลุ่ม ซึ่งได้แก่ การประชุมนาโต, การประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ
ทั้ง 7 หรือ G7 และการประชุมสหภาพยุโรป (EU)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ