นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวในหัวข้อบทบาทของเทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และความท้าทายในการปรับปรุงพัฒนากฎหมายดิจิทัลในยุคเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) ว่า เทรนด์ของ Digital Information และความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัล เพิ่มช่องทางใหม่ๆ และอำนวยความสะดวกสบาย ทั้งในเรื่องการทำงาน การค้าขาย และกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน แต่ขณะเดียวกันก็เปิดช่องว่างความเสี่ยงและความเสียหายจากการใช้งานในทางที่ไม่ถูกต้อง ทั้งในรูปแบบของการฉ้อโกงออนไลน์ ภัยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การโจรกรรมข้อมูล การโจมตีทางไซเบอร์ และเฟคนิวส์ เป็นต้น
ดังนั้น รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ และมีการจัดทำกฎหมายดิจิทัล รวมทั้งปรับปรุงกฎหมายดิจิทัลและที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันและรับมือปัญหาดังกล่าว ซึ่งกฎหมายฉบับสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์ Digital Transformation ได้แก่ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังได้มีการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลการทำธุรกรรม การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล เช่น สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ซึ่งนับเป็นหน่วยงานในระดับกรม เป็นความริเริ่มของรัฐบาลในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
นอกจากนี้ ช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้จัดเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับเทรนด์ของโลกที่ก้าวเข้ายุค Digital Transformation จนเข้มแข็ง ซึ่งโครงสร้างด้านพื้นฐานของดิจิทัลของประเทศไทย ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากในการทำธุรกิจออนไลน์ รวมถึงติดต่อสื่อสารต่างๆ
"ด้วยโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของประเทศไทยที่รัฐบาลจัดสร้างไว้ให้ เช่น เน็ตประชารัฐ ในเรื่อง Free WiFi ที่พยายามทำให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชนบท รวมถึงจุดสำคัญที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ทำให้วันนี้การใช้อินเทอร์เน็ตในการทำธุรกิจธุรกรรมออนไลน์เข้มแข็งมากในประเทศไทย รวมทั้งการที่เราสร้างระบบพร้อมเพย์ขึ้นมา ทำให้การทำธุรกรรมการเงินผ่านอินเทอร์เน็ต และมือถือมีการใช้งานในอัตราสูงมาก เมื่อเปรียบกับสัดส่วนประชากรไทย" นายชัยวุฒิ กล่าว