นายศุภชัย พาณิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) กล่าวปาฐกถาหัวข้อ "เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก" ในงาน Go Together ,Go Further พรรคประชาธิปัตย์ว่า การจัดงาน Go Together , Go further วันนี้จำเป็นต้องเดินไปข้างหน้าพร้อมๆ เพราะต้องเผชิญกับสถานการณ์บ้านเมือง และสถานการณ์โลก ไม่ว่าจะเป็นสงครามเศรษฐกิจโลก โรคภัยไข้เจ็บ ถ้าดูประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลกไม่มีครั้งใดยิ่งใหญ่ไปกว่าครั้งนี้
นายศุภชัย กล่าวว่า นโยบายประเทศไทยต้องฟอร์มกันใหม่ การดำเนินนโยบายจะต้องมีระยะห่างกับทุกอำนาจของโลกให้ได้ ซึ่งแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี เป็นแผนสำคัญที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศ เป็นเกราะกำบังให้กับไทยต่อไป แต่ปัญหาที่ผ่านมา เวลาเปลี่ยนรัฐบาล ก็จะมีการเปลี่ยนนโยบาย เช่น นโยบายการศึกษาไม่มีทางสำเร็จได้ แต่ต้องมีนโยบายชัดเจนและทำต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ไทยจำเป็นต้องมีการสร้างความสามารถในการต่อสู้การเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะเรื่องอาหาร นโยบายด้านการเกษตรที่ยั่งยืน อัจฉริยะ ซึ่งอยู่ในแผนพัฒนายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี การพัฒนาเกษตร และเพิ่มการแข่งขันได้
เรื่องสุขภาพ ในนโยบายของเรา อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการแพทย์ การรักษาพยาบาล การดูแลผู้สูงอายุ ป้องกันโรคอุบัติใหม่ เป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญ นายศุภชัย เชื่อว่า โรคระบาดเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้และหายไปได้ สามารถป้องกันและรักษาหาได้ แต่ต้องมีการค้นคว้าวิจัยต่อไป รวมถึง การส่งออก มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ ไทยควรดำเนินนโยบายยึดตามหลักสหประชาชาติ ใน 3 เรื่อง คือ 1.สร้างสิ่งที่ต้านทานกับปัญหาได้ เช่น ธนาคารพาณิชย์ต้องมีทุนสูงๆไว้ 2.ขอให้มีการพัฒนาที่ทั่วถึง กระจายความเจริญ ลดความเหลื่อมล้ำให้มากที่สุด และ 3.การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งในบ้านเราจากเศรษฐกิจพอเพียง ถือเป็นปรัชญาที่สามารถแก้ปัญหาได้
นายศุภชัย กล่าวว่า เสถียรภาพระบบการเงินเราอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีระดับการจ้างงานที่ดี ซึ่งขณะนี้อัตราการว่างงาน เหลือไม่ถึง 2% รวมไปถึงด้านสาธารณสุขเป็นไทยมีระบบที่ดีเป็นอันดับ 5 ของโลก และ ไทยมีความโดดเด่นในเรื่องการดึงดูดการท่องเที่ยว แต่สิ่งที่เราต้องทำคือ ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน
"การที่เราพัฒนาต่อไปในอนาคต ต้องมีการการดูแลเทคโนโลยี ซึ่งอยากแนะนำว่า ต้องเป็นนโยบายที่มีพัฒนาและออกแบบเองด้านเทคโนโลยี สร้างแฟลตฟอร์มขึ้นมาใหม่ เรามีนโยบายหลายอย่างอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ โดยเฉพาะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เราไม่จำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินที่ตึงเกินไปกว่าเหตุ แต่ปัญหาเงินเฟ้อเกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่เป็นการพยุงให้เศรษฐกิจเดินไปได้ และเราอยู่กับปัญหาเงินเฟ้อมา 10 ปี" นายศุภชัย กล่าว
ปัญหาเงินเฟ้อที่เราไม่ได้สร้างเอง แต่มาจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะเรื่องพลังงงาน เราต้องสร้างการผลิตพลังงานทดแทนขึ้นมาให้ได้ ซึ่งเรามีศักยภาพ โดยเฉพาะเรื่อง Solar Energy ซึ่งมีกำลังผลิตปีละ 3 พันเมกะวัตต์ ซึ่งรัฐบาลสามารถเข้าไปสนับสนุนเอกชนด้านการค้นคว้าวิจัยได้