นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้มีนโยบายให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งกลุ่มผู้กู้ยืมกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) เป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่นายกรัฐมนตรีย้ำว่าต้องให้ความช่วยเหลือ
ล่าสุด กยศ. ได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเชิงรุก โดยการร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ในการเชิญผู้กู้ยืมที่ค้างชำระหนี้ที่ถูกบอกเลิกสัญญาและกำลังจะถูกฟ้อง ประจำปี 2563 และประจำปี 2564 จำนวน 170,000 ราย เข้ามาไกล่เกลี่ยหนี้ก่อนฟ้อง ภายในงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ซึ่งปีนี้จะจัดขึ้นทั้งหมด 12 ครั้ง ในกรุงเทพฯ และภูมิภาคซึ่งขณะนี้ได้จัดไปแล้ว 3 ครั้ง ที่กรุงเทพฯและปริมณฑล, จ.นครราชสีมา และที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเหลือสัญจรอีก 9 ครั้งในภูมิภาค ดังนี้ วันที่ 1 เม.ย. ที่ จ.นครศรีธรรมราช, วันที่ 28 เม.ย. ที่ จ.เชียงใหม่, วันที่ 6 พ.ค. ที่จ.สุราษฎรธานี, วันที่ 19 พ.ค. ที่จ.ระยอง, วันที่ 27 พ.ค. ที่จ.พิษณุโลก, วันที่ 10 มิ.ย. ที่ จ.อุดรธานี, วันที่ 17 มิ.ย. ที่จ.ราชบุรี และ วันที่24 มิ.ย. ที่จ.พระนครศรีอยุธยา
สำหรับการไกล่เกลี่ยหนี้ก่อนฟ้องคดีนี้เป็นกรณีการใช้กลไกของพ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 เข้ามาช่วยเหลือเพื่อไม่ให้ลูกหนี้ถูกดำเนินคดีและเข้าสู่กระบวนการศาล โดยผู้เข้าร่วมจะได้ส่วนลดเบี้ยปรับ ได้รับโอกาสในการขยายระยะเวลาผ่อนชำระได้ถึงอายุ 65 ปี ขณะที่ผู้ค้ำประกันก็มีโอกาสได้รับการปลดภาระตามกฎหมายใหม่ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขคือ ร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่...) พ.ศ. .... โดยเมื่อกฎหมายมีผลบังคับแล้ว กยศ. จะสามารถปลดภาระผู้ค้ำประกันได้ หากผู้กู้มีการชำระเงินต้นมาแล้ว 25% ของเงินต้นที่ค้างชำระ
"ในการสัญจรจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ทั่วประเทศที่เหลืออีก 9 ครั้งพร้อมกับกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและกรมบังคับดคี กยศ. จะส่งหนังสือถึงผู้กู้ยืมในแต่ละจังหวัดหรือจังหวัดที่ใกล้เคียงสถานที่จัดงานให้เข้ารับการไกล่เกลี่ยหนี้ก่อนถูกฟ้องร้อง" นางสาวไตรศุลี กล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลของ กยศ. ณ วันที่ 28 ก.พ. 2565 พบว่า ตั้งแต่ กยศ. เปิดให้กู้ยืมตั้งแต่ปี 2539 ได้ปล่อยกู้แก่นักเรียน นักศึกษาแล้ว 6,215,161 คน ชำระหนี้แล้วเสร็จ 1,565,712 คน หรือคิดเป็น 25% ของผู้กู้ยืมทั้งหมด อยู่ระหว่างการชำระหนี้ 3,521,858 คน หรือ 57% อยู่ระหว่างการปลอดหนี้ 1,060,259 คนหรือ 17% และเสียชีวิต/ทุพพลภาพ 67,332 คน หรือ 1%