ดอลล์ดีดตัวที่ตลาดโตเกียวเช้านี้ จากแรงซื้อเพื่อชดเชยการทำช็อตเซลล์

ข่าวต่างประเทศ Friday March 14, 2008 09:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้าวันนี้(14 มี.ค.) จากแรงซื้อของนักลงทุนที่เข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น หลังจากที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับเงินยูโร และต่ำสุดในรอบ 12 ปีเมื่อเทียบกับเงินเยนเมื่อคืนที่ผ่านมา 
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 07.51 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นแตะ 100.96 เยนต่อดอลลาร์จากระดับ 100.60-100.70 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่เงินยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.5600 ดอลลาร์ต่อยูโร เมื่อเทียบกับระดับ 1.5630-1.5640 ดอลลาร์ต่อยูโร
ค่าเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นในเช้านี้ หลังจากที่ดำดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 99.77 เยนต่อดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่เงินยูโรทะยานแข็งค่าขึ้นแตะที่ 1.5646 ดอลลาร์ต่อยูโรซึ่งเป็นระดับที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ชูอิจิ คาเนฮิระ นักวิเคราะห์จากมิซูโฮ คอร์เปอเรท แบงค์ กล่าวว่า "หลังจากที่เงินดอลลาร์เคลื่อนตัวเข้าทดสอบแนวรับทางจิตวิทยาที่ระดับ 100 เยนต่อดอลลาร์ ตลาดก็ไม่มีปัจจัยสนับสนุนให้นักลงทุนซื้อเงินดอลลาร์อีกต่อไปจึงทำให้ดอลลาร์ยิ่งอ่อนค่าลงไปอีก"
เมื่อมองจากสัญญาณทางเทคนิคแล้ว ตลาดกำลังดูว่าเงินดอลลาร์จะสามารถเคลื่อนไหวขึ้นฝ่าแรงต้านเหนือระดับ 101 เยนต่อดอลลาร์ได้หรือไม่ ซึ่งเมื่อวานนี้ระดับดังกล่าวเป็นแนวรับสำคัญของเงินดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ความกังวลต่อความเป็นไปได้ที่ว่าทางการจะเข้าแทรกแซงตลาดเงินโดยเฉพาะเงินดอลลาร์ที่เคลื่อนไหวลงไปอยู่ต่ำว่า 100 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินยูโรพุ่งใกล้ระดับ 1.6 ดอลลาร์ต่อยูโรนั้นยิ่งกดดันให้เงินสกุลสหรัฐอ่อนค่าลงอีก
เรียวเฮ มูระมัตสึ นักวิเคราะห์จากคอมเมอร์ซแบงค์กล่าวว่า "การเข้าแทรกแซงตลาดเงินอย่างที่เคยทำมาแสดงให้เห็นแล้วว่า วิธีดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องค่าเงินอย่างได้ผล แต่จะกลายเป็นการเปิดโอกาสให้กับบรรดานักเก็งกำไรเข้ามาเทขายหรือการเข้าซื้อเก็งกำไรค่าเงิน"
แม้ว่าเงินดอลลาร์จะดีดตัวขึ้น แต่ก็ยังมีความผันผวนจากความเสี่ยงที่กดให้เงินอ่อนค่าจากความวิตกกังวลต่อปัญหาในตลาดเงินสหรัฐที่ยังมีอยู่ ซึ่งมาตรการต่างๆของรัฐบาลที่นำมาใช้เพื่อคลี่คลายปัญหาในตลาดสินเชื่อยังไม่สามารถฟื้นคืนความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับมาได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ