น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 65 โดยพบว่า ภาพรวมการเบิกจ่ายเงินประจำปีงบประมาณ 2565 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 64 มีการเบิกจ่ายแล้วจำนวน 1,306,123 ล้านบาท จากวงเงินงบประมาณรายจ่ายรวม 3,100,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 31.73% แยกเป็น งบกันไว้เบิกเหลื่อมปี จำนวน 237,241 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 75,530 ล้านบาท คิดเป็น 31.84% และเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจจำนวน 287,439 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 53,269 ล้านบาท คิดเป็น 18.53%
ขณะที่โครงการภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไข เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 (กรอบวงเงิน 1 ล้านล้านบาท) จำนวน 88,408 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 73,877 ล้านบาท คิดเป็น 83.56% และโครงการภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 (กรอบวงเงิน 500,000 ล้านบาท) จำนวน 191,441 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 119,833 ล้านบาท คิดเป็น 62.60%
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2565 มีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่มูลค่าโครงการตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป รวม 102 โครงการ มีมูลค่าโครงการทั้งหมด 2.51 ล้านล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 35,418 ล้านบาท คิดเป็น 18.37% ของแผนการใช้จ่ายเงิน
สำหรับผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุน กระทรวงที่มีผลการเบิกจ่ายสูงสุด ได้แก่ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส่วนกระทรวงที่มีผลการเบิกจ่ายต่ำสุด ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย