นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ตั้งเป้าหมายให้ 8 สมาคมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มช่วยกันผลักดันรายได้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่มไทยในปี 51 ให้มีมูลค่า 500,000 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีที่ผ่านมา 12% ซึ่งสัดส่วนรายได้นั้น จะมาจากค้าขายภายในประเทศ 250,000 ล้านบาท และส่งออก 250,000 ล้านบาท
สำหรับแผนที่จะใช้ในการผลักดันให้อุตสาหกรรมสิ่งทอฯมีรายได้ตามเป้าหมายจะเป็นกลยุทธ์เชิงรุก โดยภายในประเทศได้ขอให้ผู้ประกอบการผลิตเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม เน้นทั้งดีไซน์และราคาที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดลูกค้า แข่งขันกับเสื้อผ้าเครื่องนุ่มห่มที่นำเข้ามาจากตลาดจีน ซึ่งจะต้องสร้างแบรนด์ใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า
ส่วนกลยุทธ์ตลาดต่างประเทศนั้น กระทรวงจะผลักดันให้ส่งออกไปตลาดใหม่ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดที่มีข้อตกลงการค้าเสรีกับไทย ได้แก่ ญี่ปุ่น โดยจะใช้ความได้เปรียบจากข้อตกลงความร่วมมือหุ้นส่วนเศรษฐกิจ (เจเทปา) ไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งกลุ่มเครื่องนุ่มห่มไทย เป็นกลุ่มที่ได้รับการลดภาษีนำเข้าจากญี่ปุ่นเหลือ 0% รองลงมาคือ ตลาดอาเซียน ที่จะต้องใช้ประโยชน์จากการลดภาษีในกรอบอาฟตา
ด้านนายเดช พัฒนเศรษฐพงษ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่มห่มไทย กล่าวว่า การส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่มห่มไทย หากจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงกำหนดไว้ จะต้องผลักดันทุกด้าน โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่จะต้องหาตลาดใหม่เข้ามาทดแทนตลาดสหรัฐที่มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งสัดส่วนการส่งออกไทยสิ่งทอและเครื่องนุ่มห่มไทยไปสหรัฐลดลงทุกปี จากเดิมที่เคยสัดส่วนเกิน 50% จากการส่งออกทั้งหมด ปัจจุบันเหลือแค่ 47% ดังนั้นไทยจึงต้องไปโตในตลาดอื่นแทน โดยเฉพาะตลาดใหม่อย่างญี่ปุ่นและอาเซียน
ในวันนี้กระทรวงพาณิชย์ได้หารือร่วมกับอุตสาหกรรมสิ่งทอ 8 สมาคม เช่น สมาคมอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย สมาคมทอผ้าไทย สมาคมชาวโบ๊เบ๊ สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่มห่มไทย
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--