รองประธาน ส.อ.ท.คาดปีนี้ GDP ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.5-6.5%

          นายมังกร ธนสารศิลป์ รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)กล่าวถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมในปี 51 โดยคาดว่า GDP ของภาคอุตสาหกรรมจะขยายตัว 5.5-6.5% ภายใต้สมมติฐาน GDP เติบโต 4.5-5.5% โดยอุตสาหกรรมเด่นในปี 51 ได้แก่ ภาคก่อสร้าง, เหล็กและเหล็กกล้า, อิเล็กทรอนิกส์, ยางและผลิตภัณฑ์, ยานยนต์และชิ้นส่วน เป็นต้น
          ขณะที่มีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจดต์ของภาครัฐ, การลงทุนภาคเอกชนโดยเฉพาะการลงทุนจากต่างประเทศ(FDI), ความเข้มแข็งของภาคอุตสาหกรรมไทยที่สามารถปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงด้านการแข่งขันได้, การกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชนโดยโครงการประชานิยมต่างๆ, การส่งเสริมการส่งออกและการทำตลาดเชิงรุก โดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ตลอดจนการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ ซึ่งช่วยสนับสนุนให้การส่งออกเพิ่มขึ้น
          อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยเสี่ยงในปีนี้ที่ต้องระวังคือ ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว, ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มผันผวนในทิศทางที่แข็งค่า, ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นตาม, การแข่งขันจากประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่า เช่น จีน และเวียดนาม รวมทั้งปัญหาขาดแคลนแรงงานภาคอุตสาหกรรม
          นายมังกร เห็นว่า สิ่งที่ภาคอุตสาหกรรมไทยต้องเผชิญในกระแสโลกาภิวัฒน์มี 2 สิ่งที่สำคัญ คือ ปัญหาทางด้านปัจจัยพื้นฐาน ได้แก่ ผลิตภาพการผลิตของภาคอุตสาหกรรม, ระบบโครงสร้างพื้นฐาน, ระบบโลจิสติกส์, ทักษะแรงงาน, การเชื่อมโยงด้าน Supply Chain ของอุตสาหกรรมต่างฯ และยังมีปัญหาทางด้านปัจจัยตัวแปร คือ ระดับราคาน้ำมันที่สูงขึ้น, เงินบาทแข็งค่า, ปัญหาซับไพร์มของสหรัฐ
          ดังนั้นการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมไทยในกระแสโลกาภิวัฒน์ คือ ต้องพัฒนาคนด้วยการให้การศึกษาและการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มเติมทักษะแรงงาน, ต้องลดต้นทุนโดยเฉพาะการบริหารระบบโลจิสติกส์, ต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมเพื่อชิงความได้เปรียบ และสุดท้ายสินค้าอุตสาหกรรมของไทยต้องมีคุณภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม