(เพิ่มเติม) โฆษกคลังเผย รบ.ไม่เพิ่มงบกลางปี 51 โยกงบอื่นใช้แทนกว่า 1 หมื่นลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 14, 2008 20:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสมชัย สัจจพงษ์  ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และโฆษก กระทรวงการคลัง แถลงผลการประชุมวอร์รูมเศรษฐกิจว่า รัฐบาลจะไม่เพิ่มงบประมาณกลางปี 51 แต่จะใช้ปรับโยกงบประมาณเดิมมาใช้ในส่วนที่มีประสิทธฺภาพมากกว่า โดยคาดว่า วงเงินที่จะปรับโยกงบประมาณในเบื้องต้น น่าจะมีมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท
นายสมชัย กล่าว น.พ.สรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมว.คลัง ระบุว่าไม่จำเป็นต้องตั้งงบกลางปี 51 แต่เห็นว่ามีงบบางส่วนของหน่วยงานราชการมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจทื่มีเม็ดเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท
"งบกลางปี 51 คงไม่มีแล้วที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะดูแล้วการเบิกจ่ายทำได้ลำบาก แต่ยังมีงบอีกมากกว่า 1หมื่นล้านบาทที่ในส่วนราชการปรับแผนมาใช้จะมีการโยกเงินส่วนนี้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ"นายสมชัย กล่าว
นอกจากนี้ มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะมีโครงการพักชำระหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.)ซึ่งต้องทำความเข้าใจลูกหนี้ธกส. ซึ่งบางส่วนมองว่ากลุ่มที่เป็นหนี้เอ็นพีแอลจะได้รับประโยชน์ แต่ต้องมีการจัดทำแผนฟื้นฟูหนี้ด้วย ดังนั้นในกลุ่มไม่ใช่เป็นหนี้เอ็นพีแอลให้ขำระหนี้ตามปกติ
โครงการอยูดีมีสุขเปลี่ยนมาเป็นโครงการหมู่บ้านเอสเอ็มแอล ที่มีเม็ดเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท และโครงการยกระดับกองทุนหมู่บ้านและะชุมชนเมือง เป็นธนาคารหมู่บ้าน ซึ่งจะให้ ธกส. ธ.กรุงไทย และ ธ.ออมสิน ช่วยดูแลจัดทำระบบบัญชี
นายสมชัย กล่าวว่า ในที่ประชุมวอร์รูมเศรษฐกิจ ที่ประกอบด้วย 4 หน่วยงานคือ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) และสำนักงบประมาณ ได้หารือจัดทำงบประมาณปี 52 ซึงรมว.คลังให้ยึดวินัยการเงินการคลังอย่างเป็นรูปธรรรม การจัดทำงบบนสมมติฐานเศรษฐกิจปี 52 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5.5% เงินเฟ้อ 3.5% โดยจะเป็นการทำงบประมาณแบบขาดดุลต่อไปอีกหนึ่งปี ไม่เกิน 2.5%ของจีดีพี ภาระหนี้สาธารณะต่อจีดีพีไม่เกิน 50% ภาระหนี้ต่องบประมาณไม่เกิน 15% และงบลงทุนอยู่ 25%
ในเรื่องการตั้งงบประมาณรายจ่ายปี 52 ยังมีข้อจำกัด ที่รัฐต้องตั้งงบประมาณเพื่อชดเชยการใช้เงินคงคลังที่ใช้ไปปี 50 วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นวงเงินสูงมาก คิดเป็น 0.5 %ของจีดีพี
ส่วนประมาณการรายได้ปี 52 คาดว่ารัฐบาลจะจัดเก็บรายได้ดีขึ้นจากการเที่เศรษบฐขยายตัวมากขึ้น แต่จะเป็นปีที่รัฐบาลได้รับผลกระท่บจากมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นข้อจำกัดด้านรายได้ แต่เมื่อรัฐบาลทำงบประมาณแบบขาดดุล การจัดทำงบประมาณปี 52 จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งนี้จะมีการเสนอกรอบงบประมาณ 52 เข้าครม.ในอังคารที่ 18 มี.ค.นี้
ที่ประชุมวันนี้คาดหวังให้ดุลบัญชีเดินสะพัดปี 52 เกินดุลลดลง จากปี 51 ที่เกินดุลค่อนข้างมากทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า แต่ปี 52 รัฐบาลได้เดินโครงการเมกะโปรเจ็กท์เต็มรูปแบบ ซึ่งจะมีการนำเข้างวัตุดิบและสินค้าทุนมาใช้มากขึ้น จึงคาดหวังดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลง หรือขาดดุล แต่ต้องระวังถ้ามีการขาดดุลทั้งดุลการคลังและดุลบัญชีเดินสะพัดจะสร้างปัญหาได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ