บริษัทจัดเรทติ้งแห่ลดเครดิต"แบร์ สเติร์นส์"หลังขอกู้เงินฉุกเฉินจาก FED

          สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหญ่ระดับโลก อาทิ ฟิทช์ เรทติ้งส์, มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของแบร์ สเติร์นส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 5 ของสหรัฐ หลังจากมีข่าวว่าแบร์ สเติร์นส์ขาดสภาพคล่องจนต้องขอวงเงินกู้ฉุกเฉินจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค
          ทั้งนี้ มูดีส์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของแบร์ สเติร์นส์ ลงสู่ระดับ  Baa1 จากระดับ A2 โดยให้เหตุผลว่า สถานะด้านสภาพคล่องของแบร์ สเติร์นส์กำลังย่ำแย่ และมีความเป็นไปได้ที่มูดีส์จะลดอันดับเครดิตของแบร์ สเติร์นส์ลงอีก
          ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับเครดิตระยะยาวของแบร์ สเติร์นส์ลงสู่ระดับ BBB จากระดับ A+ โดยกล่าวว่าพอร์ตการลงทุนและสภาพคล่องของแบร์ สเติร์นส์ ตกอยู่ในความเสี่ยง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้แบร์ สเติร์นส์ ต้องขอกู้เงินฉุกเฉิน
          ส่วน S&P ประกาศลดอันดับเครดิตระยะยาวของแบร์ สเติร์นส์ ลงสู่ระดับ BBB จากระดับ A โดยกล่าวว่า แบร์ สเติร์นส์ จำเป็นต้องระดมทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องที่ขาดแคลนและเพื่อพยุงกิจการให้สามารถเดินต่อไปได้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้แบร์ สเติร์นส์ตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างมาก
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ข่าวแบร์ สเติร์นส์ขอกู้เงินฉุกเฉินจากเฟดและเจพีมอร์แกนเกิดขึ้นในช่วงที่ปัญหาสินเชื่อตึงตัวได้ขยายวงกว้างขึ้นภายในธุรกิจภาคธนาคารของสหรัฐ จึงทำให้นักลงทุนในตลาดวอลล์สตรีทวิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย และกังวลว่าวิกฤตการณ์สินเชื่ออาจคุกคามเข้าไปสร้างความเสียหายในระบบการเงินของสหรัฐรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้
          ทั้งนี้ แบร์ สเติร์นส์ ซึ่งมีพนักงานอยู่ประมาณ 14,000 คนทั่วโลก ประสบปัญหาด้านสภาพคล่องนับตั้งแต่เฮดจ์ฟันด์ 2 แห่งของบริษัทขาดทุนเป็นวงเงินหลายพันล้านดอลลาร์ หลังจากเข้าไปลงทุนในตลาดซับไพรม์