นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือกับภาคเอกชนถึงนโยบายลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชนด้วยการลดค่าโทรศัพท์มือถือ ว่า กลางสัปดาห์หน้าเอกชนจะนำเสนอรูปแบบบริการมายังกระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ให้อิสระในการกำหนดราคา ทั้งค่าซิมและค่าใช้บริการ หรือแอร์ไทม์ โดยให้โจทย์แก่ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือให้ช่วยลดแรงกดดันค่าครองชีพของประชาชนลง เนื่องจากโทรศัพท์มือถือเป็นบริการหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน โดยกระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่า ไม่ได้บังคับแล้วแต่สมัครใจของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือแต่ละราย
นายวิเชียร เมฆตระการ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส (ADVANC) หรือเอไอเอส กล่าวว่า ภาคเอกชนเห็นด้วยกับนโยบายลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชนด้วยการลดค่าโทรศัพท์มือถือ โดยเอสไอเอส จะนำไปศึกษาแล้วนำข้อสรุปที่ได้นำเสนอกระทรวงพาณิชย์อีกครั้งในสัปดาห์หน้า โดยการลดราคาในระยะสั้นคงไม่จำเป็นต้องเจรจาผู้ให้สัมปทาน
ทั้งนี้ การลดราคาค่าโทรมือถือจะช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนในระยะสั้นในช่วงที่ราคาสินค้าแพง โดยอาจมี 2 ทางเลือก คือ ออกเลขหมายราคาพิเศษจำนวนเลขหมายเท่ากับทุกราย หรือออกตามส่วนแบ่งการตลาด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ค้ารายเล็กเนื่องจากการลดราคาให้ต่ำลง จะทำให้รายเล็กเสียเปรียบ ทั้งนี้ คาดว่า ผลของการลดราคาค่าโทร อาจมีผลทำให้ยอดผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้ใช้บริการมักเลือกใช้บริการที่มีราคาถูกเสมอ ล่าสุดเอไอเอส ออกแคมเปญโทรนาทีละ 50 สตางค์ ไปแล้ว ซึ่งเอไอเอส ยอมรับหลังเศรษฐกิจตกต่ำคนใช้มือถือน้อยลง
นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โททิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) หรือดีแทค กล่าวว่า ดีแทค เห็นด้วยกับโครงการลดค่าบริการโทรศัพท์ และยินดีที่จะให้ความร่วมมือ อย่างไรก็ตาม ดีแทค และจะกลับไปศึกษาข้อมูลและนำข้อสรุปที่ได้กลับมาเสนอให้กระทรวงพาณิชย์อีกครั้งในสัปดาห์หน้า
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--