นายกรัฐมนตรีเผยผลสำเร็จเจรจาความร่วมมือเศรษฐกิจ-พลังงานกับพม่า

          นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ"สนทนาประสาสมัคร" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์  ถึงการเดินทางเยือนสหภาพพม่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า การเยือนครั้งนี้ไม่ได้ก้าวล่วงการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ แต่ทำตามหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนใดทำมาก่อน 
          ก่อนหน้านี้มีการมองสหภาพพม่าเพียงด้านเดียว ครั้งนี้จึงเข้าไปศึกษาสหภาพพม่าให้ครบทุกด้าน ตามสุภาษิตไทยที่ให้ดูเหรียญ 2 ด้าน เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการประสานการทำงานระหว่างกัน ทำให้ทราบว่าสหภาพพม่าเป็นเมืองพุทธ อยู่ด้วยความสงบสุข แม้แต่ผู้นำประเทศอย่างพลเอกเต็ง เส่ง นายกรัฐมนตรีของพม่ายังสวดมนต์ นั่งสมาธิเป็นกิจวัตรประจำวัน ทำให้เห็นว่า “ทุกอย่างอยู่ที่ใจ" เช่นเดียวกับสถานการณ์ภายในของพม่าที่ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเมื่อ 30 ปีก่อนการเมืองไทยก็มีการปกครองแบบประชาธิปไตยเพียงครึ่งใบเท่านั้น 
          อย่างไรก็ตามการพบหารือกับผู้นำพม่าครั้งนี้ การเจรจาประสบความสำเร็จหลายเรื่อง โดยเฉพาะความร่วมมือทางเศรษฐกิจและพลังงาน รวมทั้งเรื่องชายแดนการสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า เส้นทางเชื่อมท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าไทย— พม่า โดยไทยจะให้ความร่วมมือสนับสนุนซึ่งไทยถือว่าความมั่งคงของพม่าก็คือความมั่งคงของไทย
          "เรื่องพม่าเป็นภูเขาบังเส้นผม ที่ต้องปีนไปดูก่อน และผมก็พร้อมจะทำให้คนสบายใจ พม่าเป็นเมืองพุทธ การฆ่ากันตาย หรือการปราบปรามเป็นเรื่องธรรมดา แต่ต้องรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ซึ่งผมได้พบกับท่านอาวุโสตานฉ่วย ท่านบอกว่าท่านนั่งสมาธิ สวดมนต์ ทำวัตรเช้า กินข้าวเสร็จแล้วก็ทำวัตรเย็น บ้านเมืองอยู่ด้วยความสงบเรียบร้อย ส่วนการลงประชามติ รธน.ก็เป็นครึ่งใบเหมือนกับของเรา และผมก็ได้ไปสถานทูตไทยมีเนื้อที่ใหญ่มาก 11 ไร่ และก่อนจะกลับสองทุ่มครึ่งได้ไปชเวดากอง ก็นึกถึงนครปฐมของเรา แต่คนพม่าไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าเรา เพราะสถานที่เอื้อเฟื้อ สวยงาม คนมีชีวิตชีวาอยู่รอบองค์เจดีย์ ทั้งนี้ ยังได้มีการพูดถึงเรื่องการทำเขื่อนที่เราอยากจะทำเรื่องเขื่อน 7 พันเมกกะวัตต์ ท่านอาวุโสตานฉ่วยก็บอกว่าหากไทยจะทำก็ทำเลย รวมถึงการสร้างเรือน้ำลึกที่ทวาย 130 กิโล ที่เรากำลังจะมีถนนตัดไปกาญจนบุรี ตรงบางใหญ่ รัตนาธิเบศ หากทวายมีท่าเรือน้ำลึกระยะทางไม่เกิน 30 กิโลใช้การขนถ่ายทางคอนเทนเนอร์ เมืองทวายกับสีชัง ไม่เอิกเกริก
          ส่วนในลาว ที่เราทำน้ำเทิน 1 น้ำเทิน 2 เขาเปิดให้เราเข้าไป ทางกัมพูชาก็เปิดให้เราเข้าไป พม่าก็เช่นกัน ผมในฐานะนายกฯต้องเอ่ยกับประเทศเพื่อนบ้านว่าความมั่นคงของท่านคือความมั่นคงของเรา เพราะเราอาศัยทรัพยากรจากเพื่อนบ้านมาทำความเจริญให้กับเรา แต่เอ็นจีโอไปปักธงว่าตรงนั้นทำไม่ได้ ตรงนี้ทำไม่ได้ ทั้งที่มีไมตรีความผูกพันระหว่างเพื่อนบ้าน ใครที่ว่ารัฐบาลกะจอก แต่อีก 2 วันผมจะพบกับทูตรัสเซีย เพราะเขาอยากจะให้เราช่วยเรื่องก๊าซและน้ำมัน"นายกรัฐมนตรี กล่าว