ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.85 เคลื่อนไหวกรอบแคบ ตลาดจับตาถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 21, 2022 17:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.85 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 33.82 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 33.74 - 33.85 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้บาทเคลื่อนไหวแบบแกว่งตัวออกข้าง ขณะที่ค่าเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสมผสานกันไป" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.70 - 33.90 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้ตลาดจับ ตาดูถ้อยแถลงของประธานกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะไปกล่าวในงานสัมมนาของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 128.06 เยน/ดอลลาร์ จากแมื่อเช้าที่ระดับ 128.33 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0909 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0835 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,690.55 จุด เพิ่มขึ้น 10.20 จุด, +0.61% มูลค่าการซื้อขาย 71,126.55 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 786.15 ล้านบาท (SET+MAI)
  • คณะกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จัดทำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce)
แห่งชาติ ระยะที่ 2 ครอบคลุมปี 2566-2570 ตั้งเป้าให้เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อน e-commerce ของประเทศอย่างเป็น
รูปธรรม ทั้งนี้ คาดว่าภายในปี 2570 จะมีมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศ 7.1 ล้านล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ย 10% นับจากปี
2564 ที่มีการสำรวจโดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ล่าสุด โดยพบว่ามูลค่า e-Commerce ภายในประเทศไทยมีมูลค่ารวมทั้ง
สิ้น 4.01 ล้านล้านบาท
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) ระบุว่า นับตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ภาคธุรกิจไทยประสบปัญหากับภาวะต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มอัตรากำไรของธุรกิจลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยพบว่า ในกรณีที่ผู้
ประกอบการยังไม่ปรับขึ้นราคาขายสินค้า เมื่อแนวโน้มต้นทุนการผลิต (COGS) เพิ่มขึ้น 5.7% ในปี 2565 จะส่งผลทำให้อัตรากำไรต่อยอด
ขาย (Gross Profit Margin) ของธุรกิจไทยในภาพรวมลดลง 4.5%
  • ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) กล่าวถึงการพิจารณามาตรการผ่อนคลายที่จะมี
การหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ชุดใหญ่
ในวันที่ 22 เม.ย.ว่า จะมีการปรับแผน Test & Go ของผู้เดินทางเข้าประเทศที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั่วโลกได้มีการ
ผ่อนคลายและพิจารณาเรื่องนี้มาโดยตลอด และเตรียมมาตรการที่จะเสนอไว้แล้ว เพื่อให้มีความสะดวกมากขึ้น
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจใน 12 เขตของสหรัฐหรือ Beige Book ในวันพุธ
(20 เม.ย.) โดยระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัวปานกลางนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.พ.ปีนี้ ขณะที่เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นอย่าง
รวดเร็ว, ตลาดแรงงานเผชิญภาวะตึงตัว และปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รายงานของเฟดยังระบุด้วยว่า บริษัทส่วนใหญ่ในเกือบทุกเขตคาดการณ์ว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะยังคงมีอยู่ในช่วงหลาย เดือนข้างหน้า และระบุว่า กิจกรรมด้านการผลิตเกือบทุกเขตมีความแข็งแกร่ง แต่ปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทาน, ตลาดแรงงานที่เผชิญ ภาวะตึงตัว และต้นทุนการผลิตที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ยังคงเป็นความท้าทายต่อความสามารถของบริษัทในการเร่งผลิตสินค้าเพื่อรองรับความ ต้องการของผู้บริโภค

  • รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการเอเชียแปซิฟิกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า การอ่อนค่าของเงินเย
นในช่วงที่ผ่านมานั้น สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของตลาด และไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปลี่ยนแปลงนโยบาย
เศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ (Ultra-low interest rates)
  • รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเพิ่มการประเมินเศรษฐกิจของประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนในวันนี้ (21 เม.ย.) เนื่องจากการ
ฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน หลังผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ลดน้อยลง
  • ไบแนนซ์ (Binance) แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยว่า ไบแนนซ์ได้ระงับการให้บริการ
บางส่วนแก่ชาวรัสเซียที่มียอดถือครองคริปโทฯ รวมมูลค่าเกิน 10,000 ยูโร (10,912 ดอลลาร์) ตามมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพ
ยุโรป (EU) ที่ออกมาล่าสุด
  • ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยในวันนี้ว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างยืดเยื้อในจีน อาจ
ส่งผลให้การชะลอตัวของเศรษฐกิจลุกลามไปทั่วโลก แต่ระบุเสริมว่า จีนยังมีโอกาสในการปรับนโยบายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ
  • ซีอีโอของเทสลาแสดงความคิดเห็นในการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทเมื่อวานนี้ (20 เม.ย.) ว่า
อัตราเงินเฟ้อที่แท้จริงอาจเลวร้ายกว่าตัวเลขที่ทางการรายงาน และมีแนวโน้มว่าภาวะดังกล่าวจะดำเนินต่อไปตลอดปี 2565

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ